| The Final Sanguinary | |
|
|
|
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Thu Jan 08, 2009 10:47 pm | |
| ...เขาถามตัวเอง
ถามมานานนานแสนนาน
ล่องลอยอยู่ในของเหลวใสสีเขียวอ่อนเหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างห่อหุ้มตัวเขาถึงหัวใจ ทว่าข้างในกลับว่างเปล่า โหวงเหวงไร้ซึ่งใครอื่นจะแทรกแซงเข้ามา...
ไร้ซึ่งผู้ที่จะมาเข้าใจ...ตัวเขา
.................. ............................ .........................................
เสียงคลื่น..... เสียงผู้คนพูดคุยเสียงของลมหายใจที่เปลี่ยนแปลงไปในหลายหลากจังหวะ มันดังออกมาในรูปของคลื่น...น้ำ
นี่คือในน้ำ เขารู้ดีแต่ว่า...นี่คือในน้ำอะไรกันแน่ ?
ไร้ซึ่งความรู้สึกมีเพียงการรับรู้และตอบสนองไปตามสื่อและสิ่งเร้า ตามเป้าหมาย ตามเงื่อนไขตามข้อตกลงระหว่างทุกฝ่าย
มีคลื่น มีฟอง แต่ไม่ได้ยินแต่ก็ได้ยิน
นอกน้ำนี่จะเป็นยังไงนะ ?
การหายใจภายนอกจะเป็นยังไง ?
เขาลืมตา...ในน้ำ
ดวงตานั้นเป็นสีแดงฉาน...ราวกับเลือด
เขามีชื่อว่า "บลัดเรด" นั่นเป็นชื่อเรียก และเป็นโค้ดเนมเงื่อนไขของเขา
...
หากบอกว่า...ที่นี่เป็นห้องทดลองก็ไม่ผิดเสียทีเดียวเพียงแต่ว่ามันเป็นห้องทดลองลับ ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความผิดพลาดหลายประการทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ
สายไฟระโยงระยาง แสงไฟสีเขียว แดงเหลือง หลากสีส่องวาบสว่างจ้า ที่ห้องทดลองนั้นลึกเข้าไปด้านในสุด มีห้องเล็กๆที่ถูกสร้างขึ้น ประตูห้องมีทั้งสิ้น 3ชั้น
ชั้นแรกถูกปิดด้วยรหัส 7หลัก
ชั้นสองถูกป้องกันด้วยสัตว์ทดลองรุ่นพิเศษทั้งสิ้น 10 ตัว
และชั้นสุดท้ายจะถูกกันด้วยมนุษย์ทดลองทั้งสิ้น 2ตน
ส่วนห้องนั้นสิ่งของสำคัญที่ถูกปิดผนึกอย่างหนาแน่น......เป็นที่อยู่ของตัวเขาเอง
โค้ดเนมของมนุษย์ทดลองรุ่นแรกที่หิวกระหายยิ่งกว่ารุ่นใด ๆ ..."บลัดเรด"
>< +++ >< +++ >< เริ่มฉากเนื้อหาของบลัดเรด และที่สุดโนนสาวน้อยของวี่ก็โผล่ ! | |
|
| |
g.rabbit
Registered : 14/11/2008 Posts : 134
สถานะ : กะต่ายวีไอพี Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Fri Jan 09, 2009 8:16 pm | |
| อ้ะมีต่อแล้ว ดีใจๆ >_<~
บลัดเรดตอนแรกจิ้นเป็นเหมือนผู้ชายแก่ๆอารมณ์เสะนิดนึง แต่พออ่านตอนนี้แล้วอิมเมจดูเด็กลงยังไงชอบกล *หัวเราะ
ส่วนโนนเธอก็ได้ใจมาก >w<b ปู่คนนั้นก้อใจเย็นได้อยู่ ฮ่าๆๆๆ ต่อไปจะมีเรื่องของโนน เกี่ยวกับอยู่กับปู่คนนั้นมั้ยฮะ? อยากรู้ว่าทำไมโนนไม่ฆ่าแต่แรก?
มอเดอท์ สุภาพน่ารักอย่างแรง!!! >[]<b ถูกใจมากก๊า--- | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Sun Jan 11, 2009 2:37 pm | |
| เกี่ยวกับโนนกับปู่คนนั้น วี่ไม่มั่นใจนะ =w=" ตแมอเดอท์วี่ก็ชอบ (ฮา) พออัพตอนนี้เสร็จคงขอหายตัวไปทำธุระอีกพักถึงจะมาอัพอีกงิ
The Final Sanguinary [บทที่ 8 – Blood – Red III]
ฉัวะ !!
กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว อะดรีนาลีนกำลังหลั่งออกมา ความตื่นเต้น ความสนุกสนาน ความรู้สึกหลากหลายอย่างปนเปกันมั่วไปหมด ภาพตรงหน้านั้นพร่าเลือน ดูมัวหมองเสียจนน่าใจหาย สิ่งที่ทำให้ตัวเขาเคลื่อนไหวไปข้างหน้าได้มีเพียงกลิ่นคาวเลือด เสียงตะโกนจากเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และ...
ความหิวกระหายเลือกอันไร้สิ้นสุดในตัวของเขา
อา... เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนกันนะ ?
เรื่องราวทั้งหมดนั้น จากห้องทดลองที่เต็มไปด้วยความลับของเส้นขีดอันบางเบาระหว่างความเป็นกับความตาย หรือจะเริ่มจากนักวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งจากการสูญเสีย หรือจะเริ่มจากการทดลองอันหาแก่นสารไม่ได้นอกเหนือเพียงจากการฆ่าอันไร้ขอบเขต หรือการนองเลือดอันไร้ที่สิ้นสุดกันดี
จะอย่างไหนก็ใช่ทั้งหมด
คงจะเป็นอย่างนั้น
ไม่สิ...ต้องบอกว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า
-- The Final Sanguinary –
ที่นี่ คือ ห้องทดลอง แหล่งรวบรวมกลิ่นอายของความโศกเศร้าและน่ารันทด....
-- The Final Sanguinary –
ตะวันที่ฉายแสงกำลังดับลงและตกลงสู่ผืนน้ำทะเล แสงสีส้มสะท้อนผืนน้ำสีฟ้าประกายแสสีทอง สีโทนร้อนกับเย็นที่ตัดกันแลดูลงตัวอย่างเหลือเชื่อ
ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้มีเพียงร่างของคนสองคนที่ยืนเฝ้ามองแสงตะวันที่ค่อยๆ ลาลับท้องฟ้า ร่างของทั้งคู่ถูกฉาบด้วยแสงอาทิตย์ยามอัสดง คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มวันยี่สิบปลาย เรือนผมเป็นสีน้ำตาลไหม้ ดวงตาสีแดงจัดเสียจนน่าตกใจ ข้างกายเขาเป็นหญิงสาววัยไล่เลี่ยกัน เรือนผมเป็นสีรัตติกาลดั่งท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงตาเป็นสีน้ำตาลสดสวย ทั้งคู่ยืนโอบกอดกันอยู่หน้าอาคารสีขาวปลอด
อาคารที่ว่านั้นคือ ‘อดีต’ ของลานประหารสีขาว
อดีต...ซึ่งเป็นไปด้วยน้ำตา ความบ้าคลั่ง และการนองเลือด
นี่เป็นเพียงอดีต เป็นเพียงเรื่องเล่า เหมือนกับนิทาย ตำนาน หรือสิ่งใดก็ตามที่ยากจะเชื่อถือให้เข้าใจว่าทุกสิ่งเป็นจริงเสียทั้งหมด | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Sun Jan 11, 2009 2:41 pm | |
| นานมาแล้ว...
เมื่อหลายปีก่อน ไม่สิ สัก 10 กว่าปีก่อนเห็นจะได้
นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนหนึ่งได้หายไปตัวไป ข่าวคราวทุกอย่างของเขาเงียบหายไปอย่างไร้ร่องรอย สิ่งที่ทิ้งไว้มีเพียงแผ่นโปรเจ็คการทดลองต่าง ๆ หลายแผ่น แต่มีเพียงแผ่นเดียวเท่านั้นที่หายไป แผ่นการทดลองโปรเจ็คที่อันตรายที่สุดเท่าที่นักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นจะคิดค้นมาได้...
โปรเจ็คการสร้างมนุษย์เหนือมนุษย์
ทว่า ไม่ว่าจะมีการทดลองเกิดขึ้นสักกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง การทดลองดังกล่าวก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่สักครั้ง จนนักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นได้ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องราวเร้นลับเกี่ยวกับจิตวิญญาณมนุษย์ และนั่นก็เปรียบดังจุดเริ่มต้นของการทดลองอันไม่ควรเกิดขึ้น
นักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างเรื่องราวอันมีเหตุผลและหลักฐาน ไปยังฟากฝั่งของเรื่องราวที่ไม่น่ามีอยู่จริง เรื่องราวอันเล้นรับของวิญญาณ การตาย การมีชีวิตอยู่ และเวทมนตร์
เขาเริ่มศึกษาเรื่องราวของโลกหลังความตาย เริ่มรวบรวมงานวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณ ความเชื่ออันแปลกประหลาด กระทั่งเข้าไปสัมผัสด้วยสายตาของตนเองมาแล้ว
หลายครั้งต่อหลายครา วันเวลาที่ผ่านพ้นไปไม่ได้ทำให้ข้อมูลทุกอย่างลงตัวลงเลย มันกลับยิ่งทำให้หาต้นทางของเรื่องราวลี้ลับกับปลายทางของมันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นจึงรู้สึกว่าตนเองกำลังแย่ เขาเริ่มหมดกำลังใจ และแล้วในความคิดหลากหลายอย่างกลับมีอยู่สิ่งหนึ่งที่เด่นชัดขึ้นมาในหัว มันเป็นเหมือนเสียงหนึ่งในตัวเขาที่เขาไม่อาจทัดทานกำลังลงได้
เสียงนั้นเป็นเสียงของเขาเองหรืออาจเป็นเสียงของคนอื่น
น้ำเสียงอันเย็นยะเยือก คำพูดที่ชวนกระตุกโสตประสาท จนชวนให้รู้สึกว่ากำลังถูกดูดให้จมลงไปในทะเลเลือดสีดำสนิทที่ส่งเพียงกลิ่นคาวเลือดชวนคลื่นเหียนออกมาเท่านั้น
เขาได้ตระหนักในทันที ว่าเขาเข้าใกล้สู่หนทางสำเร็จแล้ว
นักวิทยาศาสตร์ผู้นั้นเริ่มทำการทดลองต่อไปอย่างบ้าคลั่ง
วันแล้ววันเล่าผ่านพ้นไป
เขาเริ่มออกเดินทาง
ไปยังสุสาน ไปยังสถานที่สำคัญหลายแห่ง ไปติดต่อกับพวกชนเผ่าเล็ก ๆ ที่มีความเชื่อในด้านจิตวิญญาณ และนับถือภูตผี สารพัดสถานที่ที่เขาย่างกรายไป ในบางครั้งก็คว้าน้ำเหลวติดต่อกันจนแทบหมดกำลังใจ ทว่ายามได้สิ่งต้องประสงค์ในหัวกลับโลดแล่น ราวกับพลังชีวิตถูกเติมเต็มขึ้นอีกครั้ง
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้สิ่งที่ต้องการมาครบ
รอยยิ้มอันแสนยินดีกับสิ่งที่ได้ผุดขึ้นจากใบหน้าที่สงบนิ่งมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ทว่าการได้ยิ้มในเวลาอันแสนยินดีนี้กลับส่งผลลัพธ์อันแสนขมขื่นกับเขาในภายหลัง
นักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองต่อไป
วันเวลาพ้นผ่าน กี่เดือนแล้วนะ ?
ใช่... มันนานจนเขายากจะจำได้
แต่ท้ายที่สุด มันก็ประสบความสำเร็จ หลังจากการทดลองเสร็จสิ้น ไม่ว่าจะต้องสูญเสียหลากหลายสิ่งไปมากเท่าใดเพื่อแลกผลลัพธ์อันมีค่ามา...ไม่ว่าจะแลกอะไรไปก็ตามเขาก็อยากจะ...
ยิ้ม
อยากจะยิ้มรับผลการทดลองเหล่านั้น โดยหารู้ไม่ ว่าทุก ๆ การกระทำของเขาได้ถูกจับตามองโดยใครบางคนอยู่ ...รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่มุมปากของเด็กชายตัวน้อย เรือนผมสีรัตติกาลกับดวงตาสีแดงเพลิงกำลังจับจ้องแผ่นหลังที่สั่นระริกด้วยความยินดีของนักวิทยาศาสตร์
ใช่แล้ว...
ทุก ๆ อย่างก้าวของเขาถูกจับตาดูด้วยผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักฆ่าที่โหดเหี้ยมที่สุด !
-- The Final Sanguinary – | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Sun Jan 11, 2009 2:44 pm | |
| ดวงตาสีแดงฉานราวกับเลือดกำลังจับจ้องผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่แก่ตน แต่เพียงพริบตามันกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแทน
“บลัด...เรด ผลลัพธ์หมายเลข 1 นั่นคือชื่อของเจ้า...” เสียงของนักวิทยาศาสตร์พูดขึ้น แม้นจะเบานักแต่เขาก็ได้ยิน ในหัวของเขานึกถึงเพียงความยินดีที่ได้กำเนิด โดยลึก ๆ ในใจแล้วนั้น กลับรู้สึกอยากจะ...ละเลงสีชาดให้แปดเปื้อนไปทั่ว
“บลัดเรด...ผู้หิวกระหาย”
เหมือนน้ำเสียงแหบพร่าของใครสักคนดังก้องในหัวขัดกับเสียงอื้ออึงในน้ำของหลอดทดลอง
“หิวกระหาย...ความตายของผู้อื่น”
เสียงนั่นยังดังต่อไป แต่ไม่ว่ามันจะเป็นเสียงอะไร ก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มผู้เกิดใหม่กลัวเลยสักนิด
และไม่นานนัก บลัดเรด...จึงได้ออกมาใช้ชีวิตนอกห้องทดลองในชื่อว่า “เมล”
“เมล ขอตัวอย่างทดลองที่ 8 รหัส D ทางนี้หน่อยสิ” เสียงของผู้ให้กำเนิดดังเรียกขึ้น เมลยกลังใส่ของที่ถูกตีตราสีแดงว่าอันตรายฉาบทับไว้ข้างกล่องขึ้น
“ฮึ้บ” ความจริงกล่องนี้หนักถึง 8 กิโลกรัมทีเดียว ทว่าเมลกลับยกได้สบาย ๆ ด้วยยีนของกล้ามเนื้อพิเศษที่ด็อกเตอร์เป็นคนสร้างเสริมให้ตั้งแต่แรก
“อืม ขอบใจนะ มีเธอแล้วสบายขึ้นจริง ๆ แฮะ”
แน่นอนว่าเมลไม่เคยรู้จุดประสงค์ที่ด็อกเตอร์สร้างตัวเขาขึ้นมา และไม่เคยคิดจะถาม ถึงแม้ด็อกเตอร์จะเคยบอกเขามาแล้วว่าเขาถูกสร้างขึ้นโดยเกิดจากการหลงผิดหลงถูกในการทดลองทำให้เขากำเนิดมา แต่เท่าที่เขาสังเกตดูแล้วมัน...กลับไม่ใช่
“พี่เมลมาเล่นกันไหม ?” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้น เจ้าของเสียงผู้นี้มักปรากฏตัวขึ้นใกล้เขาโดยที่เมลไม่ทันรู้ตัวเสมอ
ชายหนุ่มหมุนตัวกลับไป เห็นเป็นเด็กชายอายุราว ๆ 11 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้นขืนมองเขาอยู่ ดวงตาคู่กลมเป็นสีแดงเพลิงสดสวยที่ได้มาจากผู้เป็นมารดา เรือนผมเป็นสีรัตติกาลยะเยือกราวกับยามราตรีของคืนเดือนมืด ผิวกายเป็นสีเนียนขาวตัดกับเรือนร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยชุดสีดำสนิททั้งตัวราวกับไว้ทุกข์
“เล่นอะไรล่ะ เซลลอท ?”
เซลลอทยิ้ม...อย่างมีเลศนัย
และเป็นที่แน่นอนว่าเมลไม่เคยชอบรอยยิ้มนี้เลย
ผลงานทดลองของด็อกเตอร์เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ และผลลัพธ์ต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยออกมาให้เห็น รวมทั้งอาการผิดปกติด้านอารมณ์ของเขาก็เริ่มดีขึ้นเป็นระยะ จากที่เคยหุนหันพลันแล่น และขาดสติอยู่บ่อยครั้งก็เริ่มมีชีวิตชีวา มีสัมพันธภาพที่ดีขึ้น จนกระทั่งถึงผลงานล่าสุดของเขา...
เปรี๊ยง !
เสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่น ก่อเกิดให้เห็นแสงสีขาวแล่นแปลบปลาบอยู่บนฟากฟ้าแต่ไกล
“อากาศเลวร้าย” เมลพูดพึมพำเบา ๆ ตอนนี้เขายืนอยู่ในห้องรับแขก ซึ่งขณะนี้ที่โซฟามีคนถึง 3 คนจับจองอยู่ ได้แก่ อีฟ มอเดอท์ และโนน
“...หวังว่าระหว่างการให้กำเนินผลลัพธ์ที่ 5 คงไม่เกิดปัญหาอะไรหรอกนะ” เมลพูดอีกครั้งกับตัวเอง
“ผลลัพธ์ที่ 5 นี่...ด็อกเตอร์คิดจะให้ชื่อว่าอะไรกันนะ ?” อีฟพูดขึ้นมาลอย ๆ ก่อนจะหลับตาลงนิ่ง
“เห็นว่าจะให้ชื่อว่า แอซไซน์ น่ะ” มอเดอท์ตอบขณะที่สายตายังคงจับจ้องที่หนังสือต่อไป
“จริงสิ จะว่าไปแล้วฉันก็มีเรื่องหนึ่งที่นึกสงสัยมานานพอสมควรนะ” อีฟพูดก่อนจะหยุดเว้นระยะแล้วค่อยเอ่ยต่อ “...เซลลอทน่ะเป็นหนึ่งในผลลัพธ์เหมือนพวกเราหรือเปล่า ?”
“ฉันเกิดมาทีหลังก็จริง แต่รับรองได้ว่าเซลลอทน่ะเป็นลูกแท้ ๆ ของด็อกเตอร์” เมลตอบก่อนจะเดินมานั่งรวมกลุ่มด้วยอีกคน
เปรี๊ยง !
เสียงสายฟ้าฟาดดังขึ้นอีกครั้ง รอบนี้ถึงกับส่งผลให้โนนสะดุ้งออกมา
“แปลกแฮะ วันนี้โนนมีปฏิกิริยากับอะไรทำนองนี้ด้วย” มอเดอท์พูดแล้วเหล่มามองเมลเล็กน้อยคล้ายขอความเห็น เพราะปกติแล้วโนนนั้นมักไม่แสดงท่าทีกิริยาอะไรออกมามากนัก แถมท่าทีที่แสดงออกมายังแลน้อยกว่าปกติเสียอีก
“หวังว่าวันนี้คงไม่ได้มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นนะ” เมลพูดปิดการสนทนาก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันเงียบลง | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Sun Jan 11, 2009 2:45 pm | |
| ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูโดยใครคนหนึ่งดังขึ้น เมลที่ยืนอยู่เพียงคนเดียวจึงเดินไปเปิดประตูให้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าเมื่อเปิดออกไปเขากลับไม่พบใครแม้แต่คนเดียว เมลตีสีหน้าฉงน ก่อนจะชะโงกหน้าออกมาดูทางเดินทั้งสองฝั่ง ซึ่งก็ไม่มีวี่แววคนเลยแม้แต่น้อย
หรือเขาอาจจะหูแว่วไปเองก็เป็นได้
“คุณเมลคะ ด็อกเตอร์เรียกค่ะ !” เสียงตะโกนจากหญิงรับใช้ในบ้านดังมาจากทางเดินฝั่งหนึ่ง เมลออกวิ่ง เขารู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ มาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว แถมในหัวยังรู้สึกปวดตุบ ๆ มือไม้ของเขานั้นเย็นเฉียบทั้ง ๆ ที่อากาศในห้องไม่ได้หนาวขนาดนั้น ชายหนุ่มรับรู้ถึงสัมผัสอะไรบางอย่างที่เย็นยะเยือกแต่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้
“บลัดเรด...ผู้หิวกระหาย”
น้ำเสียงแหบพร่าที่ยากจะแยกแยะโสตเสียง ฉุดให้ฝีเท้าเร็วชะงัก เมลหันไปมองรอบกาย เขารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง ในใจของเขาลึก ๆ บอกว่าเสียงนั้นเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยดี
...คิดเสียว่าเขาหูแว่วไปละกัน
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงออกวิ่งอีกครั้ง สาวใช้พาเขามาหยุดหน้าห้องทดลอง หล่อนเองก็โดนสั่งห้ามให้เข้าไปยุ่งวุ่นวายโดยเด็ดขาด
เมลเปิดประตูห้องเข้าไป แล้วทะลุผ่านห้องลับลงไปยังห้องชั้นใต้ดินอีกทีหนึ่ง
หลอดทดลองขนาดใหญ่ ตั้งวางเรียงราย ณ พื้นที่ตรงกลางนั้นมีชายในชุดกาวน์ยืนหันหลังอยู่ ชายคนนั้นคือผู้ให้กำเนิดเขานั่นเอง เมลสังเกตเห็นว่าในหลอดทดลองไม่มีร่างคนอยู่ บางทีด็อกเตอร์อาจจะสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่ห้าออกมาไม่สำเร็จก็เป็นได้
“...ด็อกเตอร์ครับ ?” เมลเรียก แต่ชายวัยกลางคนไม่หัน
ชายหนุ่มสาวเท้าเข้าหา ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสแผ่นหลังของคนที่คุ้นเคย แต่ยังไม่ทันจะได้แตะ ภาพของด็อกเตอร์ที่สะท้อนตรงหลอดทดลองทำเอาเขาแทบช็อก !
สีแดงของโลหิตสะท้อนให้เห็นชัดที่หลอดแก้วใสเบื้องหน้า เมลคว้าบ่าด็อกเตอร์แล้วดึงตัวเขาให้เอนลง ร่างกายที่ปราศจากชีวิตตกลงมาสู่อ้อมแขนของเขา ใบหน้าที่ไร้ดวงตา กับปากที่ถูกปาดให้แย้มยิ้ม ช่างไม่เข้ากับนักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งผู้นี้เลย
แถมยังภายในเสื้อกาวน์นั้น ตัวเสื้อสีเขียวสดที่มักใส่เป็นประจำกลับแปดเปื้อนได้ด้วยสีแดงฉาน เมื่อเลิกผ้าออกมาดูก็ต้องพบกับความสยดสยองอย่างยากจะทำใจรับได้ เนื้อหนัง อวัยวะล้วนแต่ถูกลอกออกไปหมด สิ่งที่เห็นอยู่ภายในมีเพียงโครงกระดูกติดลิ่มเลือดเท่านั้น…
หยดน้ำใสไหลอาบแก้มข้างหนึ่ง ใบหน้าของเมลขาวซีดลงไปถนัดตา มือไม้ของเขาสั่นสะท้านแต่หาใช่ความกลัวไม่ ริมฝีปากสั่นระริกก่อนจะเหยียดออกแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะรัว
“บลัดเรด...ผู้หิวกระหาย”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ผิดแต่ครั้งนี้กลับชัดเจนยิ่งกว่าครั้งใด ๆ ในเมื่อผู้พูดได้ยืนอยู่เบื้องหลังเขา ดวงตาสีอเมธิสต์ฉาบสีโลหิตชั่ววูบก่อนจะกลับมาเป็นดังเดิม เรือนผมเป็นสีทองลู่เรียบไล้ใบหน้าเพราะเปียกปอนไปด้วยน้ำ รอยยิ้มยากจะเข้าใจความหมายแย้มออก
เมลหันไปหาคนแปลกหน้าอย่างช้า ๆ
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมคือผลลัพธ์ที่ห้า แอซไซน์”
>< +++ >< +++ ><หลั่น ลัน ลัน ล้า ~~ | |
|
| |
g.rabbit
Registered : 14/11/2008 Posts : 134
สถานะ : กะต่ายวีไอพี Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Sun Feb 01, 2009 12:12 pm | |
| ไม่ได้เข้ามาอ่านนานเลย หลังจากท่านวี่อัพตอนใหม่
ตอนนี้เป็นช่วงย้อนอดีตสินะฮะ?
แอบงง เล็กน้อย บลัดเรดนี่ ผมสีทองสินะฮะ? เหมือนจะจำผิดว่าผมสีดำเลย =w="
เอามาต่อเร็วๆนะฮะ!! | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Sun Feb 01, 2009 2:54 pm | |
| ผมทองในตอนล่าสุดเป็นชื่อของแอซไซน์ค่ะ ^^" ตอนหน้าจะมีคำใบ้ว่าทำไมเป็นแอซไซน์ บลัดเรด = เมล (ผมน้ำตาล *0*) | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Wed Mar 11, 2009 12:53 pm | |
| The Final Sanguinary [บทที่ 9 – Present]
กรรร !! นั่นเป็นเสียงคำราม..ของพญาราชสีห์ที่ดุร้าย.... -- The Final Sanguinary –
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมคือผลลัพธ์ที่ห้า แอซไซน์”
ดวงตาสีอเมธิสต์สดสวยกับผมสีทองที่ไล้ไปกับใบหน้าเพราะเปียกไปด้วยน้ำยาทดลอง ร่างกายที่ควรจะเปลือยเปล่ากลับสวมชุดกาวน์ที่มีรอยเปราะคุ้นตาของใครบางคนอยู่
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง” แอซไซน์กล่าวด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสีอเมธิสต์เหลือบมองคู่สนทนาที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้ายากจะบรรยาย จากนั้นเขาจึงกล่าวต่อ “ผม...แอซไซน์ ผู้ชื่นชม”
“...แกฆ่าเขาทำไม” เมลพูดเสียงสั่นระริก เขารับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างภายในร่างกายที่กำลังร่ำร้องอยู่ลึก ๆ มันส่งเสียงโหยหวนราวกับผุดขึ้นมาจากนรก
“ฆ่า เพื่อ อะไร ดีล่ะ ?” แอซไซน์เน้นคำห่างเป็นช่วง ๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“คุณไม่เห็นอะไรบางเหรอบลัดเรด ความงดงามของการฆ่าฟัน ดูซะสิ ของเหลวที่พื้นไหลเป็นทางยาว ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มสีแดงฉาน ชุดสีขาวที่ห่อหุ้มสีแดงของความตายเอาไว้ แม้จะยังไม่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่ผมว่ามันก็ไม่เลวนะ” ผลลัพธ์ที่ห้ากล่าวขึ้นพร้อมทำท่านึกคิดไปพลาง
“หรือคุณว่าไม่จริง ?” ใบหน้าอ่อยเยาว์กล่าวแล้วแสยะยิ้มเย็น เมลสะดุ้งเฮือก กว่าจะรู้ตัวอีกที เขากลับพบว่าตัวเองเดินถอยหลังมาชนกับผนังห้องเสียแล้ว ความกดดันของคนตรงหน้าทำเอาเขาถึงกับก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวเชียวหรือ !?
แอซไซน์ เจ้าของเรือนผมสีทอง ดวงตาสีอเมธิสต์ ผู้อ้างตนว่าเรียกเขาด้วยน้ำเสียงลึกลับในหลากเวลา ผู้เรียกศิลปะจากการนองเลือดด้วยความชื่นชม ร่างที่เปื้อนไปด้วยน้ำกำลังขยับกายเข้าหา ร่างเล็กกว่าเอนตัวเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ดูชวนมอง ทว่ากลับทำให้เมลถึงกับขนลุก
“นาย...ต้องการอะไรกันแน่” น้ำเสียงสั่นเครือที่ไม่เคยหลุดจากปาก บัดนี้กำลังสื่อถึงความกลัว
“ผมไม่ได้ต้องการอะไร” แอซไซน์ผละออก แล้วจึงเริ่มเดินวนไปมา ท่าทางของเขาดูคล้ายกับพ่อ...คล้ายกับด็อกมากเหลือเกิน
“ผมว่าคุณต่างหากที่มีปัญหา”
“นายกำลังจะพูดอะไรกันแน่ แอซไซน์”
“ผมจะบอกว่า คุณน่ะแหละ ที่มีปัญหา ไม่ใช่ผม”
รอยยิ้มหยันน้อย ๆ ราวกับรู้ทันไปหมด
เป็นรอยยิ้มที่เขาเกลียดจริง ๆ
ทว่า นั่น ก็คือจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา
-- The Final Sanguinary – | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Wed Mar 11, 2009 12:55 pm | |
| ครืด...
รอยเลือดสีแดงยาวเป็นแถบตั้งแต่บันไดชั้นสามลงมายังทางเดินชั้นสอง ตลอดเส้นทางของรอยเลือดมีเศษซากศพ เศษซากของสิ่งมีชีวิตตกหล่นอยู่บ้างกลางทาง
ใบหน้าอันไร้อารมณ์ชองนักล่ากำลังขบกรามอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีน้ำตาลใสคล้ายจะเปลี่ยนเป็นสีแดงทุก ๆ ครั้งในความมืดมิด
ครั้นเดินไปได้สักพัก ร่างแปลกประหลาดนั้นจึงหยุดเดิน ขนที่หยาบกร้านค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเส้นผมและหดสั้นลง กระดูกสันหลังที่โก่งออกอย่างผิดรูปลักษณ์เริ่มกลับเข้าที่เข้าทางของมันเสีย
“ชุดขาดทุกที”
เสียงบ่นพึมพำเหมือนคนอายุมากขัดกับวัยไม่เกิน 20 ต้น ๆ เมลมองซ้ายมองขวาไปทั่วบริเวณกว้าง นี่คือที่ ๆ จัดการประหารนักโทษขึ้น และบัดนี้... นักโทษในเรือนจำส่วนหนึ่งได้ถูกเขาลากมาอยู่ออกันในห้องแห่งนี้
เมลเดินวนไปทั่ว ดวงตาสีน้ำตาลปราดไปมองแต่ละรายทีละคนอย่างเชื่องช้า จังหวะห้วงหายใจที่สับสนและหวาดผวากำลังสื่อความถึงความกลัวได้อย่างดียิ่ง
นักโทษอยู่ในห้องนี้ราว 20 คน หลายคนบาดเจ็บจากตอนโดนล่า
ไม่มีคำว่าปราณี
ไม่มีคำว่าเมตตา
ทิ้งจิตของมนุษย์ไปเสียแล้วโหยหาซึ่งความตายอันน่าสยดสยอง
เมลนึกหวนไปถึงภาพของเซลลอท...ร่างของชายหนุ่มผมทองดวงตาสีอเมธิสต์ ณ ห้องทดลองเปื้อนเลือดในอดีต หรือจะบอกใหม่ ว่านั่นคือแอซไซน์ที่ยังอยู่ในร่างของเซลลอทก็ไม่ผิดนัก
“อย่า...ฆ่าเราเลย” น้ำเสียงสั่นสะท้านแหบพร่า แม้นจะหวาดกลัวซึ่งความตาย แต่ความหวังในใจลึก ๆ ว่าอยากรอดยังคงอยู่ เมื่อเห็นร่างของด็อกเตอร์ประจำลานประหารสีขาวแห่งนี้อยู่ในสภาพปกติ
“พวกแกมันแค่นักโทษ”
“แต่เราก็คนนะเว้ย !!” น้ำเสียงตวาดแหวลั่น แต่กลับไม่มีแม้แต่การหันมามอง
“นักโทษต้องประหาร”
“แล้วไงกันเล่า เราก็สิท....” น้ำเสียงขาดห้วงกระตุกสั่นประสาทของทุกสายตาในห้อง ไม่เว้นกระทั่งผู้พูดเอง เมื่อมีดผ่าตัดถูกปามาปักยังดวงตา จังหวะจากอากัปกิริยาตกใจก่อให้เกิดเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มีดเล่มบางปักตรงกลางลูกตาอย่างแม่นยำทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้หันมามองสักนิด
นักโทษคนหนึ่งวิ่งพรวดพราดออกไปทางประตูอย่างรวดเร็ว แต่มือของเมลกลับคว้าไว้ทัน นิ้วโป้งขยับขึ้นไปกดช่วงเหนือใบหู พร้อมทั้งกางมือออก แล้วบีบไปยังจุดที่เส้นประสาท ก่อให้เกิดความเจ็บปวดจนยากจะคาดคิด
เสียงโหยหวนดังขึ้นอีกรอบ ผสมกับเสียงสะท้านในความหวาดกลัวในห้องแคบ ๆ
แต่แล้วเมื่อประตูทางออกค่อย ๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า กลับทำให้เสียงอาการหอบหายใจแทบจะหยุดในทันที
ดวงตาสีแดงเพลิงมองผ่านช่องประตูเล็ก ๆ รอยยิ้มที่ยกขึ้นให้เห็นถึงความวิปลาสปรากฏชัดทางสีหน้า เรือนผมสีรัตติกาลเปรอะเปื้อนด้วยเมือกของเหลวสีแดงสด ใบหน้าขาวเปรอะสีเข้มของโลหิตที่แห้งจนติดผิวหนัง กลิ่นสาบจากศพลอยฟุ้งเมื่อประตูเปิดอ้าออก พร้อมกับหัวของใครคนหนึ่ง....
“อ๊าก !!” เสียงร้องลั่น พร้อมกับอีกร่างที่พรวดพราดไปยังประตู เขาดันประตูอ้าแล้ววิ่งผ่านร่างเล็กกว่าไป แอซไซน์ทำเพียงตวัดขาขึ้นสูงร่างใหญ่ที่วิ่งออกล้มลงกับพื้นไม่เป็นท่า และเสียงร้องก็ดังขึ้นมาอีก เมื่อเห็นหัวของคนคุ้นหน้าอีกหลายคนวางอยู่กับพื้น บางสภาพไม่มีใบหู บางสภาพไร้ซึ่งดวงตา แต่อย่างไรก็ตาม...
ภาพที่มองตรงไปของลานประหารสีขาวแห่งนี้ กลับแปดเปื้อนด้วยสีแดงของโลหิต
“หึหึหึ” เสียงหัวเราะเบา ๆ ราวกับเด็ก ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะลั่นอย่างจงใจสั่นประสาทของเมล
ในห้องที่นักโทษรายนั้นเพิ่งออกมาส่งเสียงขอความช่วยเหลืออย่างโหยหวน บ้างด่า บ้างสาปแช่ง แต่ไม่นานนักทุกเสียงต่างส่งเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดส่งท้ายก่อนที่จะเหลือเพียงร่างไร้ลมหายใจทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
“โปรด....ได้โปรด ฆ่าผมเร็ว ๆ ทีเถอะ”
“ย่อมได้” น้ำเสียงราวกับกระซิบ ช่วยผ่อนปรนให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่ประโยคถัดมากลับทำให้แย่กว่าเก่า
“เพราะนายเป็นเหยื่อรายสุดท้ายพอดี...”
นิ้วเรียวกระตุกอาวุธในมือ มันไม่ใช่กรงเล็บสีดำที่เกราะกรังไปด้วยเลือดอีกต่อไป สิ่งที่แปรเปลี่ยนกลับเป็นเพียงมือขาวน่าสัมผัส ไร้ซึ่งรอยเปื้อนจากบาป ทว่าที่ถืออยู่ในมือกลับชวนกระตุกโสตประสาท ด้วยใบมีดคมด้านเดียว ส่องประกายวาววับอยู่เหนือเขา
ใบมีดด้ามเล็ก หรือที่ใครต่างก็รู้จักกันดีในการใช้สำหรับ...
ผ่าตัด .......... ................. ........................... | |
|
| |
Lavypoo
Registered : 04/10/2008 Posts : 2390
สถานะ : ปั่นงาน ... Fame Gauge : พรรค<br> :
| เรื่อง: Re: The Final Sanguinary Wed Mar 11, 2009 12:56 pm | |
| ไม่มีใครรับรู้ถึงความทรมานของร่างที่กระตุกอยู่เหนือสายธารสีแดงสด
ไม่มีใครรับรู้ว่าเสียงนั้นบ่งบอกความทรมานมากเพียงใด
ดวงตาที่เบิกค้างด้วยความเจ็บปวด ปากล่างที่หายไปเผยให้เห็นฟันเรียงตัวอย่างชัดเจน เลือดสีดำขังอยู่ในปาก เกราะกรังไปทั่ว ที่ลำคอถูกปาเป็นแผลใหญ่ รอยเลือดกระเซ็นไปทั่ว ผลปาดจากช่วงเหนือไหปลาร้าฝั่งซ้ายของผู้ลงมือไปยังใบหู ผิวกายสีซีดที่มีลายประดับเป็นเส้นเลือดสีน้ำเงินแต้มไปด้วยหยดสีแดงสดสวย แต่ดูเหมือนว่า “งานศิลปะ” ที่ถูกรังสรรค์ออกมานั้นจะไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อรับรู้อีกแล้ว
“นายผ่าตัดเก่งขึ้นนะ” เมลบอกชม เสื้อกาวน์ขาดวิ่นถูกโยนทิ้ง ให้เห็นเพียงเสื้อสีดำตัวในที่ชุ่มไปด้วยเลือด กับสีหน้าพึงพอใจแม้จะต้องอาบเหงื่อ
ดวงตาสีน้ำตาลใสสบกับสีแดงเพลิง
รอยยิ้มแห่งความพึงพอใจกระตุกขึ้น รอยบุ๋มเล็ก ๆ กดชัดเจนลงให้เห็นจากมุมปาก เขี้ยวโผล่ให้เห็นเพียงน้อยนิด ร่างเล็ก ๆ ลุกขึ้นยืน เขาถอดเสื้อออกแต่ดูเหมือนว่ารอยเลือดจะซึมเข้าไปประทับบนเรือนร่างเสียแล้ว
ลานประหารสีขาว...
คือชื่อของสถานที่แห่งนี้
สถานที่ประหารนักโทษที่ใกล้กำหนดของการมารับของยมทูต
บัดนี้มันถูกชโลมไปด้วยสีแดงของเลือด
มีคนสองคนกำลังเดินออกมา
แสงอาทิตย์ยามอัสดงส่องแสง เงาของคนสองคนทอดยาวไปไกล
เงาหนึ่งเห็นเป็นเงาของราชสีห์กระหายการฆ่า ส่วนอีกเงานั้นกลับดำทะมึน ซ่อนเร้นอยู่ในความมืด ไม่เห็นลักษณ์แน่ชัด
>< +++ >< +++ ><
บลัดเรดกำลังเดินคู่ไปกับแอซไซน์เจ้าของเรือนผมสีรัตติกาล โนนยืนอยู่หน้าชายชราที่คฤหาสน์สีขาว
อีฟกับเซลลอทมองรายชื่อของคนที่ต้องไปทำงานในคืนนั้น
เมอร์เดอท์นั่งอยู่ในบ้านพักเพียงลำพัง ดวงตาเขาจับจ้องยังเปลวเพลิงที่ลุกโชตอย่างเชื่องช้า
ส่วนแอซไซน์...หมายถึง หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีหิมะ นัยน์ตาสีโลหิต กำลังนั่งอยู่ที่ท่าเรือเพื่อรอการกลับมาของใครบางคน
จุดมุ่งหมายของแต่ละคนกำลังดำเนินไปตามทิศทางของมัน
ณ ยามนี้ดูเหมือนทุกเส้นทางจะลงตัวกันอย่างเหมาะเจาะ แต่ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่...
เส้นทางทั้งหมดนั้นกำลังจะกลับมาบรรจบกันอย่างเชื่องช้าด้วยสีแดงที่น่าดึงดูดใจ.....
>< +++ >< +++ >< โฮก ไม่มีเวลาแต่งเลย | |
|
| |
| The Final Sanguinary | |
|