NAMELESS!
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.



 
บ้านLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]

Go down 
2 posters
ผู้ตั้งข้อความ
Lavypoo

Lavypoo


Registered : 04/10/2008
Posts : 2390

สถานะ : ปั่นงาน ...
Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Left_bar_bleue400 / 999400 / 999[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Right_bar_bleue

พรรค<br> : [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Mametorib

[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]   [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Icon_minitimeSun Feb 08, 2009 2:19 pm

The Angel x The Demon
[Half Life]


สรวงสวรรค์ช่างสรรหาเรื่องราวในการกลั่นแกล้งนัก...
หรือบางทีพระผู้เป็นเจ้าอาจจะไม่ได้อวยพรให้แก่เรา...

ดวงตาคู่กลมสีดำเหม่อมองขึ้น หากแต่เบื้องบนนั้นไม่มีท้องนภา สรวงสวรรค์ที่กว้างใหญ่และขาวสะอาด หลาย ๆ คนต่างวาดภาพเอาไว้หลากหลาย ทว่ามวลภาพเหล่านั้นหาใช่ของจริงไม่ ?
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่จีรังยั่งยืน ฉะนั้นหากอยากหลีกหนีก็อยากจะเพียงหลับแล้วนอนนิ่ง ไม่ไหวติง ปล่อยให้กาลเวลาผ่านไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเข็มแห่งชีวิตได้หยุดเดินลง บางทีการที่ปล่อยให้วิญญาณสูญสลายไปนั้นอาจเป็นทางสงบอันแท้จริงก็ได้...
คิด ๆ แล้วเปลือกตาก็ปิดลง
ความเงียบเชียบบนสรวงสวรรค์ที่หาจากที่อื่นใดไม่ได้อีกแล้วอยู่รอบกายเขา
เขามีชื่อว่า "ลอส"
ลอสยืนขึ้น สยายปีกใหญ่ที่กลางหลัง
เขาเป็นเทวดา
ที่มีปีกเป็นสีดำ...

โลกที่เป็นสีดำกับแดง ท้องฟ้าอันแสนน่าอึดอัดกำลังกดขี่เขาให้หมอบราบลงกับพื้น
รอยยิ้มเยาะเย้ยของพวกพ้องนั้นกรีดเข้าไปถึงหัวใจ !!
เสียงหัวเราะ เสียงดูถูกถากถางดังกรอกใบหูตั้งแต่ยังเยาว์นัก...
ดวงตาอันแห้งผาก...สีฟ้าใสที่แสนขัดตากำลังเหม่อมองขึ้นเบื้องบน
แต่ ณ ที่โลกใต้พิภพแห่งนี้หามีท้องฟ้าไม่
เสียงหัวใจนั้นตะโกนร่ำไห้เรื่อยไป น่าแปลกใจเหลือเกินที่มันไม่เคยระเบิดดังออกมา มีแต่เพียงเสียงขบกรามอย่างเคียดแค้น เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และน้ำตาสีเลือดของปีศาจ...
ดวงตาคู่กลมหรี่ลงฉายแววอำมหิต
รังสีอาฆาตแค้นปะทุลั่นในร่างกายราวกับภูเขาไฟอันร้อนรุ่ม
เขากำลังจะไปจากที่แห่งนี้เพื่อสิ่งที่ดีกว่า
"ลาสท์" กางปีก...แสนอัปยศ
ปีกที่เหมือนกับปีกค้างคาว ทว่าเป็นสีขาวบริสุทธิ์
ช่างขัดกับตัวเขาที่เป็นปีศาจเสียจริง ๆ ...
แล้วก็หัวเราะ

พระเจ้าของพวกเขาบอกว่าพวกเขานั้นต้องคำสาป...
จากสายเลือดของมนุษย์...
แน่ล่ะสำหรับโลกแห่งนี้การมีสิ่งแปลกประหลาดอาจจะดูเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ เด่น น่าสนใจ น่าหลงใหล แต่สำหรับโลกแห่งนั้น ความเป็นจริงช่างดำมืดและเงียบงัน
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้คำสาปอยู่...
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://lavypoo.deviantart.com
Lavypoo

Lavypoo


Registered : 04/10/2008
Posts : 2390

สถานะ : ปั่นงาน ...
Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Left_bar_bleue400 / 999400 / 999[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Right_bar_bleue

พรรค<br> : [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Mametorib

[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]   [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Icon_minitimeSun Feb 08, 2009 2:19 pm

ณ โลกมนุษย์
สายลมเย็นเอื่อยเฉื่อยโชยกลิ่นดอกไม้หอมลอยละล่องไป
ลมเย็นปะทะใบหน้าขาว เจ้าของผิวซีดหากแต่ยังดูดี รัศมีความสง่าที่ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้ แม้ว่าชายผู้นั้นจะใส่ชุดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง และมอมแมมก็ตาม
เรือนผมสีดำสนิทดั่งราตรีกาลกับดวงตาสีนิลเช่นเดียวกันกับเรือนผม ตัดรับรูปกับโครงหน้ารูปไข่ จมูกโด่ง โหนดแก้มสูง รูปหน้าที่ดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ผิวขาวละเอียดดั่งเม็ดทราย เรือนร่างสูงโปร่งน่าหลงใหล เสียแต่...สีของตากับผมนั้นเป็นสีดำ
เทวดานั้นจะไม่มีสีนี้ติดอยู่กับตัวแม้เพียงน้อยนิด
ลอสเดินเท้าเปลือยเปล่าไปตามพื้นหิน พื้นดินอันแสนอบอุ่นที่อาบแสงแดดของยามบ่ายจนเห็นเป็นสีแดงสดดั่งใบเมเปิ้ล สัมผัสของพื้นดินที่ไม่ค่อยได้ย่างกรายลงมาช่างให้ความรู้สึกดีขึ้นแก่เขาจริงๆ ถ้าไม่ขัดว่า…
มีคนกำลังเดินตามเขามาอยู่
ชายหนุ่มไม่มอง เขาตั้งหน้าตรง หลังยืด และเดินต่อไปเรื่อย ๆ ราวกับคนที่มีจุดมุ่งหมายในใจ ขณะเดียวกันคนที่ติดตามเขาก็กำลังเดินตามอย่างเงียบเชียบ แต่ไอความมืด...มืดมิดยิ่งกว่าฝันร้ายนั้นบ่งบอกเขาว่า ชายที่เดินตามเขามาไม่ใช่มนุษย์
ปีศาจ...แสยะยิ้ม
ลาสท์ยิ้ม เขาเจอเทวดาตนนั้นแล้ว เขาไม่รู้หรอกว่าเทวดานั่นจะรู้รึเปล่าว่าเขาตามมันอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ดี แม้อีกฝ่ายจะรู้ตัวแต่ก็ไม่หลีกหนีก็นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ขัดหูขัดตาซักเท่าไหร่

ยามเย็นคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว พระอาทิตย์ตกดินแล้ว
แล้ว...
ทั้งคู่ก็นั่งพักกันที่ริมลำธาร
น่าแปลกใจนัก ที่คนที่ต้องคำสาปเดียวกันแต่ต่างเผ่าพันธุ์กันต้องมาเจอกัน
แสงแดดต้องกระทบผืนน้ำสงบ แม้นสีหน้าจะแตกต่าง ทว่าสิ่งที่ทั้งคู่ครุ่นคิดต่างเป็นสิ่งเดียวกัน ภาพในหัวแล่นไปเรื่อย รวมถึงน้ำเสียงของผู้ทรงอำนาจต่างเผ่ากันและกัน
วิธีคลายคำสาป...คือ...การร่วมมือกับต่างเผ่าในการ...ทำลายและสร้างสรรค์...
"คนหัวเก่ามักงี่เง่า" ลาสท์พูดก่อน แล้วจึงทำหน้าเซ็ง ๆ
ลอสเหลือบมองปีศาจข้างกาย นี่พระเจ้าส่งเขาให้มาทำงานตามวิธีลบล้างคำสาปนั่นร่วมกับเจ้านี่น่ะเหรอ !? คิด ๆ แล้วชายหนุ่มก็ได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ
"จะไม่พูดอะไรเลยรึไง" ปีศาจพูดกระตุ้นหากแต่เทวดาหนุ่มที่นั่งข้างกายยังคงเงียบกริบ สีหน้าที่เฉยชานั้นบ่งบอกว่าเขากำลังตกอยู่ในอารมณ์ครุ่นคิด คิดแล้วมันก็ส่ายหน้า แล้วก็ส่ายหน้าอีก... มันคิดอะไรของมันฟะ!?
"หมั่นไส้โว้ยยยย!!!" ไวเท่าปาก ขาก็ถีบยันโครม ร่างบางของคนข้างกายลอยละลิ่วตกลงสู่แม่น้ำเชี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง
"ปรานีแล้วนะ...นี่ไม่ใช่ฤดูหนาว" ลาสท์พูดอย่างอารมณ์ดี ได้แกล้งคนท่าทางอ่อน ๆ แบบนี้ค่อยโล่งสักหน่อย มันอยากกวนตีนก่อนทำไมเล่า
แต่แล้วเสียงหวาน ๆ ของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น "นี่! นายทำอะไรเค้าน่ะ !" เสียงนั้นตวาดขึ้นพร้อมกับการปรากฏให้เห็นของร่างใครคนหนึ่ง
ร่างบางนั้นเป็นร่างของหญิงสาวส่วนสูงไล่เลี่ยกับพวกเขา ใบหน้ารูปไข่ตกกระเล็กน้อย คิ้วโก่งเรียวขมวดเป็นปมแสดงความไม่พอใจ เรือนผมสีน้ำตาลหนาถูกถักเป็นเปียยาวหลวมๆสองเส้น ในที่สุดหญิงสาวก็ไถลลงจากเนินหญ้าลงมายังแม่น้ำ ก่อนจะกระโดดลงผืนน้ำใสหมายจะช่วยชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำ
แขนเรียวยาวทั้งสองข้างของหญิงสาวตีผืนน้ำเกิดเป็นเสียง ซ่า!! ใบหน้านั้นฉายแววหงุดหงิดอยู่อีกแต่ก็ยังคงแสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย ลาสท์มองหญิงสาวเจ้าของร่างบางกลางสายน้ำเชี่ยวกรากนั้นแล้วยิ้มน้อย ๆ
พลางนึกในใจ
...ไอ้ตาแก่บ้านั่นส่งงานแบบนี้มาให้ฉันทำคู่กะไก่อ่อนเนี่ยงั้นเหรอ ดีล่ะ เราจะได้เห็นกัน!!!...
แล้วปีศาจก็แสยะยิ้มอีกครั้ง

"หน้าด้าน !" เสียงตวาดของหญิงสาวดังขึ้น ลาสท์ทำท่าไม่สบอารมณ์ ส่วนลอสนั้นนอนสลบไสลไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่บนเตียงไม้ เธอบ่นต่ออีกหลายประโยคก่อนจะเดินออกจากห้องไป
"เชอะ !" เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าพูดทั้ง ๆ ที่มีเพียงตนคนเดียว (ไม่นับคนที่สลบไปแล้ว) พร้อมกับสบถสองสามคำ เขาก็แค่บอกหล่อนว่า...เห็นมันร้อน ๆ เลยสงเคราะห์ช่วยให้เย็นขึ้น !!!
มันผิดตรงไหนกันห๊ะ !!
แล้วยัยสาวปากมากตรงหน้าดันบอกมาอีกว่า ผิดเต็มประตู !
ชิ ถ้าไม่เห็นว่าจำเป็นต้องทำล่ะก็ จะไม่ยุ่งกับยัยคนนี้เลยคอยดู !
แม้ในใจจะบ่นแต่แน่นอนว่าลาสท์ก็ต้องยอมนอบน้อมตามที่ถูกดุมา ชายหนุ่มยกขึ้นวางกับเก้าอี้ข้างเตียง เขาจ้องมองเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลในแบบที่เขาอยากจะเป็นได้เช่นนั้น
“ถ้าไม่ติดที่ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นมนุษย์คนแรกที่ฉันกับแกต้องลงมือทำงานร่วมกันล่ะก็...จะไม่ยุ่งเกี่ยวแน่นอน” คำพูดพึมพำหลุดออกมาจากชายท่าทางก้าวร้าวที่บัดนี้กลับแลไม่เป็นเช่นนั้น สีหน้าแข็งกระด้างไม่ก็กวนประสาทกลับกลายเป็นสีหน้าเหงาหงอยระคนเศร้าสร้อย
“มนุษย์น่ะ...ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับพวกมันนักหรอก” ปีศาจชันเข่าขึ้น เขาก้มหน้าลง แล้วหลับตาพริ้ม เสียงหวีดหวิวของสายตาดังเบา ๆ รู้สึกว่าราตรีนี้กว่าจะจบลงคงอีกยาวไกลนัก ลาสท์คิดเช่นนั้นและหวังให้มันจบลงโดยไว

...มนุษย์ทุกคนล้วนมีสิ่งที่อยากสรรสร้างและอยากทำลายล้างลงในเวลาเดียวกัน...

"วิธีแก้คำสาปนั้นคือ...การช่วยเหลือในการสร้างสรรค์และทำลายตามความคิดของมนุษย์ที่ฝักใฝ่ในพระเจ้าทั้งสองโลก"
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://lavypoo.deviantart.com
Lavypoo

Lavypoo


Registered : 04/10/2008
Posts : 2390

สถานะ : ปั่นงาน ...
Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Left_bar_bleue400 / 999400 / 999[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Right_bar_bleue

พรรค<br> : [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Mametorib

[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]   [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Icon_minitimeSun Feb 08, 2009 2:20 pm

แพขนตาปรือขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เปลือกตาจะถูกเปิดออกรับแสงตะวัน...ไม่ใช่สิ ไม่มีแสงหรอก ก็นี่มันเป็นภายในห้อง และเป็นตอนกลางคืนเสียด้วยซ้ำนี่นา
ลอสยันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เขาสะบัดหัวไล่ความง่วงก่อนจะลุกออกจากเตียงไม้ ชายหนุ่มจ้องมองฝ่าความมืดมิดออกไป ดวงตาคู่กลมสีดำสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าใสในแบบที่เขาอยากเป็นเข้า
"ฉันว่า...ฉันแฝงตัวกับความมืดได้ดีแล้วเชียวนะ" ลาสท์เอ่ยยิ้ม ๆ ราตรีนี้ยาวไกลอย่างที่เขาคิดเสียจริง
"เรามาพูดเรื่องงานที่พระเจ้าของฉันกับท่านซาตานของนายสั่งมากันดีกว่ามั้ย ?"
ปีศาจผงกหัวเห็นด้วยก่อนจะพากันออกไปนอกบ้านหลังเล็ก พวกเขาไม่จำเป็นต้องเดินนั่นคือสิ่งที่ใครต่างก็รู้กัน ร่างของคนสองคนหายไปจากห้องราวกับไม่เคยมีคนอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้
ท้องฟ้ายามรัตติกาลมีดวงดาวพร่างพราวเต็มไปทั่ว ร่างบางของหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลและดวงตาคู่กลมสีเดียวกันกำลังยืนอยู่ที่นอกเมือง เท้าคู่เปล่าเปลือยแกว่งละธารน้ำใส ดวงตาเหม่อลอยชอบกล เธอกำลังร้องเพลงเบา ๆ เพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน น้ำเสียงอ่อนนุ่ม เนื้อหาเริงร่า ทว่าท่วงท่าช่างเศร้าสร้อย การแสดงท่าทีที่ไม่ได้เสแสร้งเกิดจากจิตใต้สำนึกสั่งการออกมา แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ตัวก็ตาม
เรือนผมสีทองปลิวไสวรับกับลมในที่สูงเช่นเดียวกับเรือนผมสีรัตติกาล คนทั้งคู่ดูแปลกประหลาดแต่ก็แน่ล่ะพวกเขาไม่ใช่คน
ใบหน้าทั้งสองมองตรงกันที่จุดเดียวนั่นคือเธอคนนั้นที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำ
"บนต้นไม้แบบนี้...เหมือนพวกถ้ำมองยังไงไม่รู้" เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเอ่ย แต่คนข้างกายกลับไม่ตอบกลับหากแต่พูดถึงประโยคอื่นแทนที่
"เธอกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ เพราะสูญเสียสิ่งที่รักและหวงแหนไป" ลอสพูด ดวงตาคู่กลมสีดำดูขุ่นมัว ปีศาจมองเทวดาข้างกายแล้วส่ายหัวเบา ๆ เขาไม่ชอบไอ้ขี้ก้างนี่เลย พับผ่าสิ ! "แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ แต่ว่านะ จิตของหล่อนก็มีจิตอาฆาตแค้นอยู่"
"จิตอาฆาตแค้นจะเสื่อมสลายไปเมื่อดวงวิญญาณได้รับการชำระบาป"
"จิตอาฆาตแค้นก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ การที่เพียงสารภาพบาปแล้วจะชำระบาปได้ด้วยพรเตโชแบบนั้นน่ะ ออกจะเป็นสิ่งที่ฉันไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นะ"
แล้วทั้งคู่ก็มองหน้ากัน เทวดาเอ่ยก่อน "แล้วจะทำยังไงจึงจะ ‘สร้างสรรค์และทำลาย’ ได้เล่า"
นั่นสิ...นั่นเป็นเสียงในใจของเขา
ทำยังไงถึงจะสร้างสรรค์และทำลายในเวลาเดียวกันได้เล่า ?

หากข้างหน้ายังมีแสงสว่างคนเราก็ย่อมมีความหวังที่จะไปยังจุดที่มีแสงสว่างนั้น
แต่หากทางข้างหน้ามีเพียงความมืดมิด มนุษย์ก็พร้อมที่จะดิ้นรนเพื่อสร้างความหวังที่จะหาที่มีแสงสว่าง

เอาจริง ๆ ความมืดกับแสงสว่างก็แทบไม่ได้ต่างกันเลย ทุกอย่างกลืนกินกันไปเสียหมด เพราะตลอดเวลาที่คุณยังอยู่หนทางของคุณช่างมืดมิด แม้ยามจากฉันไปคุณก็ยังมืดมิด จะให้มีแสงสว่างได้ยังไงกันเล่า ทำไมคุณจึงต้องดิ้นรนหาแสงจอมปลอมนั่นด้วย ทั้ง ๆ ที่ตาของคุณมองไม่เห็นแท้ ๆ ...
เรน...ทำไมคุณจึงต้องดิ้นรนหาแสงสว่างด้วยเล่า ทั้ง ๆ ที่ตาของคุณมองไม่เห็นแท้ ๆ ...
!!!
ดวงตาคู่กลมสีน้ำตาลเบิกโพลงด้วยความตกใจ เธอฝัน...ฝันร้ายเสียด้วย ฝันถึงเขา ทั้ง ๆ ที่เขาจากไปแล้ว หญิงสาวยกมือข้างหนึ่งกุมหัว เธอรู้สึกว่าโลกกำลังหมุนคว้างและสติกำลังจะเลือนหาย หญิงสาวจึงค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นและกลับไปทางบ้าน
"อือฮึ อย่างนี้นี่เอง" เจ้าของผมสีทองดั่งตะวันพูดพึมพำ คนข้างกายมองตามร่างบางในความมืดนั้นไปด้วยสายตาที่เป็นห่วงเป็นใย "เธอสูญเสียคนรักไป ว่าแต่ปีศาจอย่างนายก็มีพลังสามารถที่จะแทรกแซงเข้าไปในฝันและอดีตได้อย่างนั้นหรือ" ลอสพูด เขาไม่ได้ถาม แค่แปลกใจเพราะคำตอบก็รู้อยู่แก่ใจกันดี
"งานแรกท่าจะลำบากล่ะ จะทำยังไงกันดีนะ พระเจ้า โปรดจงคุ้มครองนาง" ร่างสูงที่มีสีรัตติกาลประกอบกายเอ่ย มือทั้งสองนั้นกำประสานกันด้วยความศรัทธาแต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากเบื้องบน จนคนที่ยืนอยู่เบื้องบนแต่หาใช่พระเจ้าตอบกลับแทน "ภาวนาไปก็ไม่ได้อะไรหรอกน่า ก็ในเมื่อเธอคนนั้นคืองานของเรา ไม่ว่าเบื้องบนคนไหนก็สอดมือเข้ามายุ่งไม่ได้อยู่แล้ว"
ลอสเข้าใจแต่เขาก็ยังหวังว่าจะมีเสียงตอบรับบ้างเท่านั้นเอง
"เฮ้ เจ้าหน้าอ่อน ฉันว่า...ฉันรู้วิธีที่จะสร้างสรรค์และทำลายในเวลาเดียวกันได้แล้วล่ะ"
"ฉันก็คิดว่ารู้แล้วเหมือนกัน"
แต่ด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง...ปีศาจกำลังเริงร่าหากแต่เทวดากำลังขุ่นมัว...ช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล ทว่าหนทางแห่งการลบล้างคำสาปแห่งปีกนี้ อาจจะยาวไกลยิ่งกว่ามากก็เป็นได้

ทุกๆสิ่งล้วนเป็นทั้งความจริงแล้วความฝัน
หลากหลายสิ่งมีชีวิตย่อมดับสูญไปอย่างน่าอนิจจา...
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://lavypoo.deviantart.com
Lavypoo

Lavypoo


Registered : 04/10/2008
Posts : 2390

สถานะ : ปั่นงาน ...
Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Left_bar_bleue400 / 999400 / 999[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Right_bar_bleue

พรรค<br> : [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Mametorib

[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]   [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Icon_minitimeSun Feb 08, 2009 2:21 pm

ลาสท์ยืนอยู่ปลายเตียงของหญิงสาว ร่างบางกำลังหลับฝันลึกและยาวนานทว่ากลับสั้นนักในโลกแห่งมายานั้น ดวงตาคู่กลมสีฟ้าเงยหน้าขึ้นสบกับดวงสีดำที่กลืนกันในความมืดมิด ลอสพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกันกับที่วางมือทาบลงบนหัวของหญิงสาว ปีศาจเห็นดังนั้นจึงเคลื่อนกายไปยังอีกฟากฝั่งของที่นอนแล้วทำแบบเดียวกันบ้าง
ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาใด ๆ บนโลกมนุษย์หลุดออกมาจากปากทั้งคู่ราวกับร้องเพลง เสียงของทั้งสองไหลลื่นประหนึ่งเสียงเดียวกัน ทันใดนั้นแสงสวางสีดำและขาวก็เกิดขึ้นตรงกลางหน้าผาก สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมกลับหัวกับดวงตาปรากฏขึ้นชวนให้น่าขนลุก ทั้งคู่หลับตาลง พร้อมกันกับที่หญิงสาวลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอมองไปรอบตัวแล้วไม่พบเห็นสิ่งใด.......
แล้วเธอจึงเดินไป
ยิ่งเท้าเดินไปเบื้องหน้า ราวกับว่าพื้นที่โล่งกว้างดั่งในฝันแห่งนี้จะดึงดูดเธอให้จมลงไป ครั้นก้มหน้าลงชิดกับส่วนพื้น ยื่นมือลงไปสัมผัส กลับพบว่าพื้นที่เหยียบอยู่เป็นทรายเม็ดเล็กละเอียดสีขาวนวลตา
บางทีนี่อาจเป็นเพียงความฝัน
อาจจะไม่ใช่ความจริง
แล้วเธอจึงออกวิ่ง เท้าย่ำไปกับผืนทราย แต่กลับรู้สึกเหมือนดวงตาฝ้าฟาง ราวกับเป็นคนตาบอด เพราะภาพที่เห็นเบื้องหน้าเป็นเพียงละอองของความหนาวเหน็บสีขาวเท่านั้น
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นไป
ละอองตกจากฟากฟ้า หยาดน้ำใสไหลริน หิมะตกขณะอยู่บนทรายขาว แล้วในตอนนั้น ความทรงจำครั้งสุดท้ายอันเลืองราง เขาได้เดินเข้ามาหา พร้อมด้วยรอยยิ้ม ในมือกำของสำคัญ ในหัวเตรียมคำพูดที่จะพูดไว้ ชุดที่เขาสวมเป็นสีขาว ของเธอเป็นสีขาว แล้วทั้งคู่จึงเดินเข้าหากัน
พร้อมรอยยิ้มและน้ำตา
พร้อมสีแดงเข้มของเลือดวงใหญ่บนเสื้อสีขาว ... แล้วเขาจึงล้มลงพร้อมคำสัญญาที่ไม่อาจเป็นจริงได้
ร้องไห้เท่าไหร่เขาก็ไม่หวนกลับ วิญญาณไม่อาจหวนคืน แต่ความทรงจำกลับติดตาไปจนวันตาย
ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านมากี่ปียังไม่อาจลืมเลือนเธอไปได้
พร่ำร้องหาจนเสียงแหบแห้ง เสียงที่เธอเคยชมว่าไพเราะนักกลับไม่มีใครมาอยู่ฟังข้าง ๆ ทุกวัน
แต่เพราะรักมากจึงเกลียดมากได้....
ทำไมถึงต้องทิ้งกันไป ทำไมถึงได้ผิดสัญญา !! คำพูดที่อยากจะพูดกับเจ้าตัว ทว่าเขากลับไม่อยู่เสียแล้ว หรือสวรรค์จักไม่มอบพรให้แก่ลูกกัน ? หรือลูกควรจะพึ่งความมืดมิด ควรจะพึ่งจ้าวดินแดนแห่งความอาสัญ ?
น้ำตาไม่ได้มีไว้เพื่อรองรับอารมณ์ผู้อื่น
เรื่องนั้นเธอเองก็รู้ดีเช่นกัน...

ดวงตาคู่กลมสีดำว่างเปล่า ส่วนสีฟ้ากำลังสั่นระริก
ลาสท์หัวเราะเบา ๆ "รักมากเลยแค้นมาก มนุษย์ช่างโง่งมนัก มัวแต่ควานหารูปลักษณ์อันไม่จีรังของกันและกัน"
"นางช่างน่าสงสาร... เพราะคนรักถูกพรากจากไปในเวลาอันสำคัญยิ่ง สิ่งที่ตอบแทนสะท้อนกลับมาจึงมีเพียงความโศกศัลย์อย่างสุดซึ้ง และความรู้สึกว่างเปล่าที่หมายมั่นอยากจะสัมผัสกับความฝันไปตลอดกาล"
"ฉันจะ ‘ทำลาย’ มันเอง ไอ้มายาไม่จริงนั่น"
"เรื่องราวน่าเศร้าเกินไป...นัก คงทำได้เพียง ‘สร้างสรรค์’ หนทางแห่งใหม่ให้กว้างไกลได้มากขึ้น"

ทำลาย...
เคยคิดถึงความหมายของคำ ๆ นี้บ้างรึเปล่า ?
การทำลายล้าง การทำให้หายไป การทำให้ใช้การไม่ได้
หรือกระทั่งการทำลายเพื่อช่วยเหลือก็มีเช่นกัน
แล้วสร้างสรรค์เล่า...
เคยคิดถึงความหมายมันบ้างหรือไม่ ?
การกระทำสิ่งใหม่ขึ้นมา การจินตนาการถึงความก้าวหน้าในทางที่ดี
ทว่าการสร้างสรรค์บางครั้งก็ได้นำพาไปสู้ภัยพิบัติเช่นกัน...
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://lavypoo.deviantart.com
Lavypoo

Lavypoo


Registered : 04/10/2008
Posts : 2390

สถานะ : ปั่นงาน ...
Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Left_bar_bleue400 / 999400 / 999[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Right_bar_bleue

พรรค<br> : [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Mametorib

[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]   [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Icon_minitimeSun Feb 08, 2009 2:22 pm

รุ่งเช้าวันใหม่เรียกแสงอรุณให้เบิกฟ้ากว้าง
กลีบดอกไม้ร่วงโรยรา...จากดอกไม้สีแดงฉาน
หญิงสาวร้องเพลงอยู่ริมแม่น้ำสายเดิม ดวงตาคู่นั้นแลดูว่างเปล่า
ภาพเก่า ๆ ของ ‘เขา’ สะท้อนไปมาบนผืนน้ำ แม้จะเป็นเพียงสิ่งที่คิดขึ้นมันกลับพาลให้น้ำตาไหลพราก ครั้นแล้วเธอจึงก้มหน้าลง น้ำเสียงร้องเพลงกระตุกแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงสะอึกสะอื้นครวญครางปานจะขาดใจเสียให้ได้
“ความรักเป็นเพียงภาพมายาที่ไม่จีรัง เจ้าว่าไหม ?” เสียงไม่คุ้นหูขัดจังหวะการร้องไห้ เจ้าของดวงตาสีฟ้าใสจับจ้องมาที่เธอ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามเธอกลับรู้สึกกลัวแววตานั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ
“...มีธุระอะไร” หญิงสาวปาดน้ำตาทิ้งแล้วหันหน้าหนี
ลาทส์ไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับพูดต่อ “เพราะความรักเป็นสิ่งที่ยากจะทายทักว่าจะเกิดขึ้น หรือเพราะความรักเป็นสิ่งที่สลายไปได้ในพริบตาเดียวกันแน่ ถึงได้ถูกเปรียบเป็นมายาเช่นนั้น”
“เจ้าจะพูดอะไรกันแน่ ?”
“แค่อยากจะให้เจ้าร่วมวงสนทนาด้วยเท่านั้นเอง พอดีว่าข้ากับเจ้าเก้งก้างนั่นคุยกันไม่ถูกคอเท่าไหร่”
“คนอย่างเจ้าน่ะรึ รู้จักความรักกับเขาด้วย” หญิงสาวกัดแล้วทำท่าจะลุกหนี ทว่ากลับโดนชายหนุ่มรั้งตัวไว้เสียก่อน
“จะรีบร้อนไปใย เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาผู้นั้นก็ไม่กลับมาแล้ว”
“...เจ้า...” ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างอย่างตกใจ เขาที่อีกฝ่ายพูดเสียดแทงถึงใจเธอ แม้กาลเวลาจะพ้นผ่าน แต่ใบหน้า น้ำเสียง ทุก ๆ สิ่งของเขา เธอไม่ต้องการให้หายไป !!
“เจ้า...!! จะมารู้อะไรกัน !” ใบหน้าหวานแข็งกร้าว มือบางพยายามสะบัดแขนอีกฝ่ายทิ้ง แต่แพ้ด้วยกำลังซึ่งอ่อนแอกว่า
“ข้าเป็นปีศาจ”
คำพูดเพียงคำเดียวหยุดกิริยาของหญิงสาวได้ ร่างบางเงยหน้ามองอีกฝ่าย เรือนผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า “รูปลักษณ์เช่นนี้น่ะรึที่จะให้ข้าเชื่อเจ้า !!”
“หากไม่เชื่อ เจ้าก็มองดูเจ้านั่นสิ” ลาสท์กล่าว จากนั้นลอสจึงเดินมาจากข้างหลังเขา เรือนผมกับดวงเนตรสีรัตติกาลของเทวดาที่ดูผิดแปลกจากความคุ้นเคยทั้งมวล
“เจ้ามองเห็นอะไร”
“...พูดอะไรน่ะ”
“เจ้ามองเห็นอะไร แม่นาง ?” ลอสเดินมาใกล้ แสงแดดที่สะท้อนเข้านัยน์ตาทำให้เธอรู้สึกเหมือนเห็นปีกสีขาวเรือง ๆ อยู่ที่แผ่นหลังของชายหนุ่ม
“...ที่เจ้าพูด จริงงั้นหรือ ?”
“ปีศาจกับเทวดา และภารกิจจากสวรรค์” ลาสพูดแล้วเดินตรงเข้าหาหญิงสาว มือของเขาเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าของเธอ ท้ายที่สุดสติของเธอจึงเริ่มจะจางหายและหญิงสาวจึงหลับใหลลงในอ้อมแขนของปีศาจ

...หากเลือกเกิดใหม่ได้ ฉันจะขอเคียงคู่กับเธออีกครั้ง ในฐานะเดิม ๆ ในลักษณะชีวิตที่คล้ายคลึงกับแบบเดิม ขอรักเธอตลอดไป...

“นี่เรา...มานอนอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”
แดดอ่อนของยามบ่ายส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน หญิงสาวยันตัวลุกขึ้น เธอรีบเดินไปยังส่วนต่าง ๆ ของบ้าน แต่กลับไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงผู้มาเยือนทั้งสองเลยแม้แต่น้อย
“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจตามมาด้วยการสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดแปลกไปในบ้าน
ขนนกสีรัตติกาลกับสีดำที่เปื้อนปลายขนนกอยู่นิด ๆ วางไว้อยู่ข้างรูปถ่ายที่เธอเคยนำไปเก็บไว้เมื่อนานมาแล้ว
รูปถ่ายคู่ของเธอกับเขา...
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ” หญิงสาวสัมผัสกรอบรูป เธอยกมันขึ้นมา พลันของบางอย่างกลับหล่นลงมาจากในกรอบรูปนั้น
กระดาษสีขาวแผ่นเล็ก ๆ เสียบคาไว้ ดูจากสภาพมันก็เนิ่นนานพอสมควรแล้ว
มือบางหยิบมันขึ้นมาอ่าน น้ำตาไหลอาบแก้ม มือข้างหนึ่งปิดปากเอาไว้ คำพูดพึมพำที่ฟังไม่ได้ศัพท์ดังจากปากที่สั่นระริก

...รักเราจะอยู่ตราบนิรันดร์...

ประโยคแสนสั้นกับลายมืออันคุ้นเคย สิ่งมีค่านั้นมีเพียงไม่กี่สิ่ง แม้เขาจะจากไปแล้ว ทว่าในใจเธอนั้นจะยังคงเก็บภาพเขาเอาไว้ตราบนานเท่านาน
“ฉันคงต้อง...”
กรอบรูปถูกวางลง
“คงต้องเดินต่อไปแล้วล่ะ ลาก่อนนะ” ใบหน้ายิ้มอย่างเศร้าสร้อย
หญิงสาวลงมือเก็บข้าวของ ห่างออกไปนั้นบนต้นไม้ชายสองคนกำลังเฝ้ามองดูเธออยู่
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://lavypoo.deviantart.com
Lavypoo

Lavypoo


Registered : 04/10/2008
Posts : 2390

สถานะ : ปั่นงาน ...
Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Left_bar_bleue400 / 999400 / 999[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Right_bar_bleue

พรรค<br> : [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Mametorib

[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]   [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Icon_minitimeSun Feb 08, 2009 2:22 pm

“นางคงไม่คิดฆ่าตัวตายอีกหรอกนะ” ลอสพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง เทวดามองหญิงสาวที่เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยดีแล้วหลับตาลง “ขอให้พระองค์อวยพรแด่นาง...”
“ชิ” ลอสท์มองอีกฝ่ายแล้วเบือนหน้าหนี
“นางก็แค่คนอ่อนแอ ที่หวังจะไปพึ่งศาสตร์มืดมาชุบชีวิตชายที่รักให้ฟื้นมาเท่านั้นแหละ แต่ในการที่จะบูชาทั้งพระเจ้าทั้งซาตานนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเลยแท้ ๆ ...”
“คนเราย่อมมีความมืดในจิตใจทั้งสิ้น”
“แล้วเจ้ามีมั้ยล่ะ ลอส ?” ลาสท์หันมามองเขา ดวงเนตรสีฟ้ากับดวงเนตรสีดำ
“ดวงตาของเจ้า !?” น้ำเสียงทั้งสองพูดประสานกัน
“สีฟ้า !?” ลาสท์พูด เขาพุ่งตัวไปยังแม่น้ำที่อยู่ใกล้ ๆ ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนสีเช่นกัน เป็นสีรัตติกาล...
“บททดสอบได้ช่วยเหลือพวกเราแล้วล่ะ” เทวดาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขารู้สึกปีติอย่างยิ่ง
“เออ เดินทางต่อกันเหอะ”
“จริงสิ เมื่อครู่เจ้าเรียกชื่อข้าด้วยนี่” ลอสกล่าว เทวดาเดินตรงมายังข้างกายปีศาจ เขานั่งลงกับพื้น ขาทั้งสองไล้กับกระแสน้ำ “ข้าอยากฟังอีกจัง ไม่ได้มีใครเรียกชื่อข้ามานานแล้ว ในเมื่อเจ้าเรียกชื่อข้า... ข้าก็จะเรียกเจ้าเช่นกันนะ ‘ลาสท์’”
“เฮ้ย ! ข้าเรียกเจ้าได้ แต่เจ้าห้ามเรียกข้า !!” คำพูดที่แลไม่สมเหตุสมผลกล่าวตัดคำ เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากเทวดาผู้มีเรือนผมสีรัตติกาล
“หนทางนั้นอีกยาวไกลนัก” ลอสเปลี่ยนเรื่องทันที ทำเอาปีศาจตามไม่ทัน
“มนุษย์ผู้ฝักใฝ่ทั้งสองโลก รวมทั้งยังคิดที่จะจากโลกใบนี้ไปด้วยการคิดสั้น เราต้องรีบหาโดยไว เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายอีก”
“งั้นก็ไปเถอะ เดินทางต่อ”
“การจะช่วยมีหนทางเดียว คือ ต้องสร้างสรรค์หนทางใหม่ สร้างสรรค์สิ่งที่จะนำมาซึ่งการชี้นำมนุษย์ผู้นั้น” ลอสพูดแล้วลุกขึ้น
“งั้นข้าจะทำลาย ทำลายไอ้ความคิดโง่เง่านั่นเสีย” ลาสท์กล่าวปิด
ทั้งคู่หันมามองซึ่งกันและกัน
หนทางนั้นแลดูจะยาวไกลนัก

...

ถนนสีดำ ท้องฟ้าสีน้ำเงิน จันทราสีเหลืองทอง ดวงดาราสีขาว ร่างของบุรุษสองคนเดินอาบแสงจันทร์เสี้ยว ร่างหนึ่งมีเรือนผมสีรัตติกาล ดวงเนตรสีฟ้าใส ปีกที่หลังเป็นสีขาวครึ่งหนึ่ง อีกครั้งเป็นสีดำ ส่วนอีกคนมีเรือนผมสีทอง ดวงเนตรสีดำ ปีกค้างคาวที่กลางหลังสับสีเช่นกันกับคนข้างกาย
พวกเขายังคงเดินต่อไป ยุคสมัยแปรเปลี่ยน
เหมือนกาลเวลาจะไม่เคยหยุดนิ่ง
แท้จริงแล้วรูปลักษณ์นั้นอาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
และจบลงด้วยการทำภารกิจเดิม ๆ
คำบัญชาจากสวรรค์ กับประกาศิตจากนรก
ตราบาปของมนุษย์ผู้โง่เขลา ความดีของจิตใจอันบริสุทธิ์
บางครา หากเดินไปบนถนน คุณอาจรู้สึกเหมือนมีใครบางคนเดินผ่านไป
สัมผัสอันอ่อนโยนของปีกเทวดา กับสัมผัสอันหนาวยะเยือกของปีกปีศาจ
นั่นแปลได้ว่าพวกเขาเลือกจะช่วยเหลือคุณแล้วล่ะมั้ง ?

...

แสงสว่างสีขาวสาดส่องลงมา ก่อให้เกิดเงาสีดำสนิท
ส่วนแบ่งอันลงตัว ระหว่างแสงสว่างกับความมืด
ราวกับเป็นครึ่งชีวิตของกันและกัน
ราวกับจะหลอมรวมกันตราบนานเท่านาน.....

--
ความจริงมันเป็นเรื่องยาวน้า - -a
แต่รู้ว่าแต่งไม่ไหวชัวร์
ส่วนตอนจบนี่...ช่างใจนานมากว่าจะเอาไงดี
เพราะมันคิดไว้ 2 แบบ (ฮา)
อ่านแล้ว คงเข้าใจกันน้อ = ="
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://lavypoo.deviantart.com
rosetta_love

rosetta_love


Registered : 04/10/2008
Posts : 612

สถานะ : เง้อ อาจารย์
Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Left_bar_bleue290 / 999290 / 999[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Right_bar_bleue


[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]   [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life] Icon_minitimeFri Feb 13, 2009 10:27 pm

ต้องบอกว่า การใช้คำนี่สุดยอดเลย เห้อ ถ้านิยายทุกเรื่องแต่งเพราะแบบนี้เค้าจะอ่านแม่งทุกเรื่องเลย
ชมนะเนี่ย


(ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ T T)


ไม่รู้สิ แต่ มันให้ความรู้สึกดีมากเลย แต่ก็นะ คิดว่ามันยัง มีอะไรที่ขาดอยู่ ตรงแก่นกลางของเรื่องน่ะ

??? ไม่ถนัดของพวกนี้ -*-

อะแต่ตอนจบ เหมือนเคยเห็นใน KH 2 ตอนจบ แต่พอดีแปลไม่ค่อยออก แต่ก็ประมาณนร้ล่ะ

แสงสว่างสีขาวสาดส่องลงมา ก่อให้เกิดเงาสีดำสนิท
ส่วนแบ่งอันลงตัว ระหว่างแสงสว่างกับความมืด
ราวกับเป็นครึ่งชีวิตของกันและกัน
ราวกับจะหลอมรวมกันตราบนานเท่านาน.....


ันก็ไม่ได้เหมิือน KH2 หรอก ไม่เหมือนเลย แต่ว่า มันทำให้นึกถึงน่ะนะ ตอนเล่นจบ


ครือ ตั้งแต่เด็กเรามักเห็นว่า ธรรมะกับอธรรม มักแบ่งแยกกันชัดเ้จน ขาวกับดำอยุ่ร่วมโลกกันไม่ได้ ต้องกำจัดกันไปข้างหนึ่ง

แต่ความจริงแล้ว สัญลักษณ์หยินหยางมันสวยดี เอ๊ย

ขาวกับดำในลูกกลมเดียว นี่อาจเป็นสิ่งที่มีความหายบางอย่างก็ได้


แต่นะ เดี๋ยวนี้มันเป็นกิ้งก่าปลี่ยนเหลืองแดงได้รวดเร็ว เอ๊ย

สีเทา


แล้วเราจะทำัไง? ไม่ใช่เดี๋ยวนี้มีสีเทา แต่คนเรามีดวงตาเปลี่ยนไป

เราไม่เห็นสีดำขาว แต่เป็นเทา จนแยกไม่ได้ว่าอะไรดำขาว เลยแยกเลวกับดีออกจากกันไม่เป็น

-*- เพราะบอร์ดเราใช้สีเทานั่นเอง ออกทะเล
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://my.dek-d.com/rosetta-lovely/
 
[เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» [เรื่องสั้น]วจนายมทูต
» [เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi]
» [เรื่องสั้น] น้ำตายมทูต
» Part Angel -{Old-Project}-
» Part Angel -{Remake}-

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
NAMELESS! :: สถานที่สำคัญในเมือง :: ลำนำแห่งห้วงธาราเซเรน-
ไปที่: