NAMELESS!
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.



 
บ้านLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 [เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi]

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Maya

Maya


Registered : 16/04/2011
Posts : 31

Fame Gauge :
[เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi] Left_bar_bleue10 / 99910 / 999[เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi] Right_bar_bleue

พรรค<br> : [เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi] Empty

[เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi] Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: [เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi]   [เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi] Icon_minitimeMon Apr 25, 2011 5:00 pm

เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นๆที่จู่ๆก็อยากแต่งขึ้นมายามดึกน่ะค่ะ 555+

แต่งตั้งแต่ปีที่แล้ว ดูเวลาก็ใกล้จะครบ1ปีแล้วนะเนี่ย~
------------------------------------------------------------------------
[เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน

ผมเกลียดความอ่อนแอของตัวเองเหลือเกิน

เกลียดที่สมองเอาแต่คิดถึงเขาทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคิดถึงผมบ้างไหม

เกลียดที่เอาแต่หยิบมือถือขึ้นมาหวังให้มีเมสเซจสักคำก็ยังดี

เกลียด...เอาแต่ด่าตัวเองสุดท้ายก็ต้องมานั่งด่าตัวเองแบบเดิม...

“ถ้าวันไหนลืมมือถือหรือแบตหมดมึงจะมีสมาธิเรียนมั้ยวะไอ้ภพ?” เพื่อนผมเคยด่าผมเมื่อเห็นว่าผมเอาแต่กำมือถือไว้ตลอดเวลา

...ก็เขาบอกว่าวันนี้จะโทรมานี่...

“เออ กูก็เป็นแบบนี้แหละน่า...”

“มึงอย่าติดให้มากเลยไอ้ภพเอ๊ย ต่อไปถ้าไม่มีจะไม่ลงแดงตายเหรอ?”

...ถ้าไม่มี...ฟังแล้วเจ็บจัง นั่นสิ จะว่าไป...ตอนนี้ถือว่าผมมีรึเปล่านะ...

(เป็นยังไง วันนี้ตั้งใจเรียนหรือเปล่า?)

“ครับ!” แค่เขาโทรมาแค่นี้ก็รีบรับสายกระดิกหางดิ๊กๆอย่างกับลูกหมาแหนะไอ้ภพเอ๊ย...

(พรุ่งนี้พี่ว่างไปทานอาหารเย็นด้วยกันไหม?)

“ครับ ให้ผมไปหาดีไหมครับ?”

(ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่ไปรับเธอเอง)

พูดคุยไม่กี่คำก็วางสายไป...เฮ้อ มีความสุขจัง

“เมื่อคืนฝันดีรึไงวะ อารมณ์ดีจริงนะมึง” เพื่อนคนนึงทัก

“แน่นอน” ผมยิ้มตอบ มองเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวก็จะถึงเวลานัดแล้ว อยากเจอไวๆจัง ไม่ได้เจอตัวเป็นๆมาตั้งสามอาทิตย์แล้วนี่นา

แต่แล้วเสียงมือถือก็ดังขึ้นก่อนถึงเวลานัดแค่สิบห้านาที

(ขอโทษนะ พี่มีธุระด่วนพอดี...)

“งะ งั้นเหรอครับ น่าเสียดายจัง งั้นไว้วันหลังก็ได้ครับ” ฝืนยิ้มออกมา ช่วยไม่ได้นี่นะ...

(เอาไว้วันหลังพี่จะชดเชยให้นะ)

“ไม่เป็นไรครับ ขอให้งานเสร็จไวๆนะครับ”

ต้องเข้าใจสินะว่าเขาทำงานแล้วต่างกับผมที่ยังเรียนอยู่ ความรับผิดชอบมันต่างกัน...

แย่จัง ทำไมทางมันดูเบลอๆแบบนี้ล่ะ?

“ภพ...มึงร้องไห้...” เสียงใครบางคนครางออกมา

เอ๋? มิน่าล่ะ...ผมปาดน้ำตาที่ดูจะเริ่มไหลอย่างไม่สิ้นสุด

“ทะ ทำไมไหลไม่หยุดเลยล่ะ แย่จัง ฮะๆ”

“มานี่” ผมเดินไปตามแรงฉุดก่อนจะไปหยุดที่ด้านหลังอาคารซึ่งแทบไม่มีคนเลย “จะร้องก็ร้องออกมาเลย ตรงนี้ไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากกูกับมึง”

เท่านั้นเองผมถึงได้รู้ว่าที่ไหลออกมาตอนแรกแค่น้ำก๊อกเท่านั้น นี่สิถึงจะเขื่อนแตกของจริง

ผมร้องออกมา อยากจะปล่อยโฮให้ดังลั่นแต่สุดท้ายเสียงกลับติดอยู่ที่ลำคอ

ก็รู้ว่างานยุ่งแต่ว่าออกมาเจอกันไม่ได้เลยจริงๆเหรอ?

ต่อให้ดึกแค่ไหนถ้าบอกให้รอก็จะรอเพราะอยากเจอ

แค่ได้ยินเสียงหรือข้อความสั้นๆบ้างก็ดีใจจนยิ้มออกทั้งวันแล้ว แค่นี้สักวันละครั้งมันมากไปเหรอ

รู้ว่าผมเป็นแค่เด็กไม่โต เอาแต่ใจแต่นี่ก็พยายามเต็มที่แล้วนะ ต้องพยายามอีกเท่าไหร่เหรอ ไม่อยากจะทนแล้วนะ

ไม่ได้อยากจะร้องไห้เลยสักนิด

ไม่ได้อยากจะอ่อนแอเลย

ไม่อยากให้ใครมาเป็นห่วงแบบนี้ด้วย

“ขะ ขอโทษนะ” ผมสะอื้นขอโทษเพื่อนออกไป เลยต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วยเลย

“เฮ้อ มึงนี่มีบุญนะ สาวๆเขาอยากมาซบอกกูกันจะตายแต่มีมึงคนแรกเนี่ยแหละที่ได้อกกูซับน้ำตาเนี่ยไอ้ภพ”

“ขอโทษ...” ผมผละตัวออก แย่จังทำเสื้อเขาเปื้อนหมดเลย

“ตาแดงเป็นกระต่ายเลยมึง” นิ้วอุ่นๆเอื้อมมาช่วยเช็ดน้ำตาที่เริ่มหยุดไหลแล้ว “ร้องไห้ทำไม?”

อย่าถามเสียงอ่อนโยนแบบนั้นสิ...มันจะทำให้ร้องไห้อีกรอบง่ายๆนะ...

“ไม่มีอะไร...”

“ตอบมาได้นะ แล้วร้องทำไม ผงเข้าตาเหรอ”

“อืม...” แก้ตัวได้ห่วยแตกมากไอ้ภพ

“มึงนี่น้า...” ผมถูกดึงตัวเข้าไปกอด...อืม อุ่นดีจัง “แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่กูจะเลิกเป็นห่วงมึงได้เนี่ย?”

“ขอโทษ...” ผมตอบเสียงอู้อี้

“ไม่ต้องมาขอโทษกูหรอก คราวนี้มันทำอะไรล่ะ?”

“ไม่ได้ทำ...”

“ให้ทายนะ ขอเลิกนัดล่ะสิ?”

ผมเงยหน้าขึ้นมาอย่างตกใจ หลุดปากว่า “ทำไมถึงรู้ล่ะ?!”

ตาตี่ๆของเขาหรี่ลง “เดาถูกสินะ”

“....” ผมหลบสายตา

“โอเค งั้นเย็นนี้ก็ว่างสินะ ไปกินข้าวกัน เมื่อวานเพิ่งได้เงินมาเดี๋ยวเลี้ยงเอง” เขาโอบบ่ารั้งผมให้เดินตาม

“ขอบใจนะ...”

เขาหันมาส่งยิ้มอ่อนโยนให้ “ไม่เป็นไร ยังไงมึงก็มีกู จำไว้ภพ”




ผมยังคงไม่เข็ด...เฮ้อ เมื่อไหร่จะเลิกได้เสียทีนะไอ้ต้าเอ๊ย

วันนี้ผมก็ยังคงนั่งมองคนบ้าชอบถือมือถือตลอดเวลาเหมือนเดิม อันที่จริงผมคงบ้ามากกว่าที่เอาแต่มองเขาอยู่ได้

เมื่อวานจู่ๆมันก็ร้องไห้หลังวางสายไปทำเอาผมแทบสติแตกรีบพามันไปที่เงียบๆเพราะกลัวมันอาย อุทิศเสื้อตัวนึงให้มันซับน้ำตาก่อนจะเดาไปว่าไอ้นั่นมันต้องเป็นคนทำภพร้องไห้แน่

แล้วก็เดาถูก...พับผ่าสิ ทีเวลาเดาข้อสอบทำไมไม่เดาถูกงี้บ้างวะ

ภพคบกับมันมาสี่เดือนห้าวันแล้ว ทำไมผมจำได้น่ะเหรอ?

ง่ายมาก...เพราะมันเป็นวันที่ผมอกหักพอดีไง ไอ้คนหักอกผมน่ะเหรอ ก็ไอ้ภพนี่แหละครับ

กำลังจะสารภาพรักแต่ไอ้ตัวดีกลับยิ้มร่ามาพูดคำแรก

‘เรามีแฟนแล้วล่ะต้า’

แล้วผมจะไปกล้าสารภาพรักต่อได้ไหมล่ะ เป็นคุณจะทำยังไงล่ะ?

ผมน่ะเหรอ...

‘อืม’

แค่เนี้ยแหละ...

ไอ้ห่วยเอ๊ย...

จนบัดนี้ผมเดาว่าไอ้ภพมันก็ยังไม่รู้หรอกว่าผมชอบมัน วันๆเอาแต่สนใจมือถืออยู่ได้คงจะรู้หรอก ขนาดยุงกัดที่ข้อมือมันยังไม่สนเลยแต่ถ้าเกาะมือถือบังหน้าจอเมื่อไหร่ล่ะรีบไล่ทันที

เซ็งโว้ย!

“ภพ วันนี้ไปร้องเกะกันไหม?” ผมชวนมันกะว่าจะให้ระบายความเศร้า

“ขอโทษนะต้า วันนี้ไม่ว่างน่ะ” ยิ้มได้แบบนี้แสดงว่าระหว่างที่ผมไม่เจอมันโทรมาแก้ตัวแล้วสินะ สรุปผมเลยไปนั่งร้องเพลงคนอกหักคนเดียวประชดชีวิตเสียเลย

เยี่ยมจริงๆ ชีวิตมีค่ามากไอ้ต้า

อยากจะไปต่อยหน้าไอ้นั่นเสียทีว่ามึงอย่ามาทำไอ้ภพของกูร้องไห้แต่เขาเป็นใครแล้วผมเป็นใครล่ะ ถ้ามันง่ายแบบนั้นผมทำไปนานแล้ว!

ถ้าผมฉวยโอกาสตอนที่ภพร้องไห้เมื่อวานสารภาพออกไปจะเป็นยังไงนะ?

คงทำให้เจ้าตัวดีของผมร้องไห้หนักขึ้นล่ะมั้ง...

เกิดเป็นคนดีนี่ลำบากจัง เฮ้อ...

ไม่อยากเป็นแล้วคนดี อยากจะเลวจะชั่วบ้างถ้าไม่ติดว่านั่นจะทำให้ไอ้ภพยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก

“เมื่อไหร่มึงจะรู้เสียทีวะไอ้ภพว่ากูชอบมึงเนี่ย!” ผมตะโกนออกไมค์ ไหนๆก็ไม่มีใครอยู่ด้วยแล้วก็สุดๆไปเลย!

แต่ผมคงไม่ทำแบบนั้นแน่ถ้ารู้ว่าจะออกมาเจอสองคนนั้นเข้าพอดี

บัดซบ...




ผมเลิกคิ้วมองเพื่อนของภพสลับกับภพไปมา

เมื่อกี้ผมว่าผมเพิ่งได้ยินว่าเขาตะโกนว่าชอบแฟนผมอยู่นะ...

“สวัสดี” ผมเอ่ยทัก ทำเหมือนไม่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ มือโอบบ่ารั้งภพเข้ามาหาตัวอัตโนมัติ

“สวัสดี...” เก็บอาการเก่งไม่เลวนี่ อืม รู้สึกว่าภพจะเคยแนะนำว่าชื่อ...

“ต้า...” ไม่ใช่เสียงผมหรอกครับ เสียงแฟนผมต่างหาก

ภพของผมมองเพื่อนด้วยแววตาเหมือนจะร้องไห้

“น้องต้าร้องเพลงเสร็จจะกลับแล้วสินะครับ เชิญๆ” ผมไล่ทางอ้อม “ไปกันเถอะภพ”

“ผม...ขอคุยกับต้าแป๊บนึงได้ไหมครับ?”

“งั้นพี่จะรอไปด้วยกันนะ” ผมไม่ยอมพลาดจะได้รู้หมากของคู่ต่อสู้หรอก

“มึงมีอะไรภพ?” ต้าเอ่ยขึ้น

“กู...เมื่อกี้มึงพูดจริงเหรอ?”

“...” ต้าพยักหน้า ผมรีบเปลี่ยนจากโอบบ่าเป็นกุมมือของภพไว้

ผมกลัว

กลัวว่าจะเสียภพให้คนตรงหน้า

“ต้า...กูขอโทษ...” ในที่สุดที่รักของผมก็ร้องไห้ออกมา ผมตัดสินใจจบเรื่องนี้

“พวกเราขอตัวก่อนนะน้องต้า” เมื่อเห็นสีหน้าของต้า ผมชนะ แต่พอมองภพแล้วผมกลับไม่แน่ใจขึ้นมา

พี่คิดไปเองใช่ไหมว่าพี่เห็นความอาวรณ์ในนั้นน่ะภพ...

ผมจูงมือภพเข้าไปในห้องคาราโอเกะที่จองไว้เมื่อครู่ ซับน้ำตาและกอดลูบผมลูบหลังเขาโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา

ภพเสียใจผมรู้ แต่เรื่องแบบนี้ยังไงก็ต้องมีคนเจ็บซึ่งผมจะไม่ยอมปล่อยภพไปแน่

ผมอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด อาจจะดูแลภพไม่ได้ดีที่สุดแต่ผมรักภพ

แค่นั้นเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วสำหรับผมที่จะรั้งภพไว้

ผมเป็นคนเห็นแก่ตัว ต่อให้ภพจะจากผมไปผมก็จะยื้อไว้

“พี่รักภพนะ” ผมเอ่ยไป คนในอ้อมแขนเกร็งตัวขึ้นมา “พี่รักเธอ”

“ผม...ก็รักพี่ครับ”

แค่นั้นก็พอ ภพรักผม ผมรักภพ

...ขอโทษนะน้องต้า แต่คนๆนี้ยกให้ไม่ได้จริงๆ...

ผมเชยคางภพขึ้น ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาแต่ผมก็ไม่รังเกียจที่จะจูบใบหน้านี้ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากอิ่ม

ไม่มีเวลาให้ไม่ได้หมายถึงไม่คิดถึงแต่เพราะคิดถึงเลยรีบทำงานเพื่อจะได้มีเวลาว่างอยู่ด้วยกันเพิ่มขึ้น

เพราะคิดถึงเลยพยายามตัดใจไม่โทรหาเพราะกลัวว่าจะยิ่งอยากคุยอีก

เพราะรักเลยไม่กล้าวุ่นวายมากเพราะกลัวจะไปล้ำโลกส่วนตัวของเขาเข้า

อยากจะกอดจะจูบใจจะขาดแต่ถ้าทำแบบนั้นภพคงกลัวผม

ต้องเป็นผู้ใหญ่ให้ดูพึ่งพาได้สำหรับเขาไว้ จะต้องไม่วู่วาม ภพคงไม่ชอบคนใจร้อน...

...รักนะ...

ผมสบตากับดวงตาฉ่ำน้ำของภพ หยิบกล่องกำมะหยี่ออกมาแล้วเปิดฝาเผยให้เห็นแหวนทองคำขาวขอบทองหนึ่งวง

“รักนะ” ผมหยิบมือขาวขึ้นมาจูบเบาๆก่อนจะสวมแหวนให้

ไม่ว่าจะอย่างไรผมจะไม่มีวันปล่อยมือจากภพให้ใครเด็ดขาดไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งนั้น...

ภพมองผมสลับกับแหวนด้วยรอยยิ้มกว้างทั้งน้ำตาก่อนจะโถมเข้ามากอดผมเต็มแรง

“ผมรักพี่ รักพี่จริงๆนะ”

“อืม พี่รู้”

ดังนั้นเธอเป็นของพี่ ของพี่เท่านั้น...

ThE EnD

--------------------------------

จบแบบก่งก๊งมากมาย จบแบบไม่จบเท่าไหร่ เอ่อ...อ่านแล้วงงรึเปล่าคะ = =’

คือจริงๆแล้วจะเขียนแค่ในมุมของภพตอนราวๆห้าทุ่มแต่ไปๆมาๆมือมันไหลไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาจบที่คุณพี่ไร้ชื่อจนได้

ยังไง...ก็หวังว่าเรื่องสั้นยามดึกเรื่องนี้จะมีคนชอบบ้างนะคะ...

แฮ่~

ขึ้นไปข้างบน Go down
 
[เรื่องสั้น] มุมมองของคนสามคน [yaoi]
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1
 Similar topics
-
» [เรื่องสั้น] น้ำตายมทูต
» [เรื่องสั้น]วจนายมทูต
» [เรื่องสั้น] The Angel x The Demon [Half Life]

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
NAMELESS! :: สถานที่สำคัญในเมือง :: ลำนำแห่งห้วงธาราเซเรน-
ไปที่: