Title: We are twins.[02]
Rating : แล้วแต่อารมณ์คนแต่ง
Note: เป็นออริสตอรี่ของตัวละครที่ใช้เป็นออริแทนตัวของผมน่ะครับ พึ่งจะแต่งลงที่นี่เป็นครั้งแรกเลย แต่ก็คิดเอาไว้เป็นเวลานานแล้วเหมือนกัน ถึงเวลาได้เอาลงซักทีล่ะนะ
=======================================
ร่อนเร่พเนจรไปเรื่อยๆไม่จบสิ้น
ราวกับเดินอยู่บนริบบิ้นที่เชื่อมติดกัน
ไม่รับรู้ได้เลยว่าปลายทางของการเดินทางอยู่ที่ใด...
สองขาเล็กก้าวเดินหลบหนีจากชุดดำมาเรื่อยๆในป่าที่แสนมืดมิดและน่ากลัว สายธารใสชะล้างเลือดสีแดงของเขาและของที่คนที่เขาทำร้ายหากว่ากลิ่นคาวเลือดนั้นยังชัดเจน จมูกเล็กยู้ยี้เพราะไม่ชอบใจกับกลิ่นคาวน่าสยดสยองนี้เอาเสียเลย เครื่องแบบสีขาวอมเทาเปรอะเปื้อนคราบเลือดจนไม่น่าใช้งานได้อีก แต่คงต้องสวมใส่จนกว่าจะหาเสื้อผ้าชุดใหม่ได้
มือเล็กวาดผ่านอากาศราวกับจะบรรเลงเพลงบางอย่างในห้วงทำนองแห่งความมืดมิด หมอกสีดำสนิทที่ก่อตัวรอบๆค่อยหล่อหลอมเข้าด้วยกันในสองมือนั้น ดวงตาสองสีจ้องมองพลังที่ได้รับแบ่งปันมาอย่างไม่เข้าใจ ตัวเขาและดวงวิญญาณอีกครึ่งหนึ่งต่างก็เกิดมาเป็นชิ้นงานที่ผิดพลาด แม้จะรู้มาบ้างว่าวิญญาณของเขาและเธอเป็นวิญญาณที่สูงค่าและหายาก แต่เพราะการทดลองอันโง่เขลาของเหล่าคนผู้ละโมบเหล่านั้น ของสูงค่าจึงกลับคืนสู่ความว่างเปล่า
น่าขำเสียจริง
ดวงตาสองสีจ้องมองหมอกดำสนิทและพยายามเพ่งพิจเพื่อแปรเปลี่ยนรูปร่าง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ความรู้สึกเหนื่อยหอบโถมใส่เพราะฝืนใช้พลังที่ไม่รู้จักบวกกับที่ต้องหนีออกมาโดยไม่ทำร้ายใคร ต้นไม้สูงใหญ่ที่เงยขึ้นไปไม่เห็นยอดดูน่ากลัวแต่ก็ปลอดภัยมากพอจะใช้เป็นที่พัดพิงในยามราตรี
ถ้าอยากจะออกไปข้างนอกได้อีกครั้งจะต้องแข็งแกร่ง
จะต้องแข็งแกร่งให้มากกว่าตอนนี้
จะต้องแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องดวงดาวดวงนั้นให้ได้
......................................
ความทรงจำที่ขาดหายไปเป็นช่วงๆช่างขัดใจเขาเสียจนน่าโมโห
เหลือไว้เพียงดวงตาสีเลือดของผู้ถือครองวิญญาณอีกครึ่งของเขาไว้
ดวงตาที่ราวกับปีศาจของเจ้าแมวผู้ทรยศหักหลังเขา
ร่างเล็กเจ้าของดวงตาสีเขียวราวกับผลึกมรกตจ้องมองเงาในกระจกที่ถึงแม้จะไม่ได้มีส่วนที่เหมือนกับอีกฝ่าย แต่ข้างในนั้นต่างก็เป็นคนคนเดียวกัน ความเจ็บร้าวที่หัวไหล่และช่องท้องจากการถูกทะลวงเข้าไปด้วยฝ่ามือที่ขนาดไม่ต่างกัน โชคยังดีที่ไม่ได้ทำร้ายไปถึงอวัยวะภายใจให้แหละสลาย กลิ่นเลือดในห้องที่น่าขนลุกยังติดปลายจมูกไม่จางหาย ความทรงจำตั้งแต่เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินเดินออกจากห้องไปหายไปกับความมืดมิด และรู้สึกตัวอีกทีก็ถูกทำร้ายด้วยฝีมือของคนที่เขารักที่สุดแล้ว ใบหน้าเล็กสั่นหัวไปมา หยาดน้ำตาคลอเบ้าจนแทบไหล
ทำไมนายต้องทำร้ายฉัน ทำไมกัน
เซยะคนนั้น เซยะที่แสนใจดีของฉันหายไปไหน
นายเป็นใครกันแน่...คนที่ทรยศกับความรู้สึกของฉันเป็นใครกันแน่
แสงสว่างวาบที่อบอุ่นในฝ่ามือ ทาบผ่านรอยแผลและค่อยจางหายไปเรื่อยๆ จู่ๆคนที่เคยอ่อนแอไร้ซึ่งพลังกลับใช้พลังได้ดั่งใจนึก จู่ๆเขาก็มีพลังในการรักษาบาดแผล และยังมีพลังแบบอื่นอยู่ด้วย เขารู้สึกได้แต่เขาไม่รู้ว่าพลังนั้นคืออะไร
ราวกับถูกผนึกไว้ไม่ให้ออกมาเหมือนกับความทรงจำ
"โฮชิคุง อย่าลุกเดินไปไหนมาไหนสิจ๊ะ แผลเรายังไม่หายดีเลยนะ"
"ขอโทษครับคุณพยาบาล..."
"คราวหลังพี่ไม่ยกโทษให้แล้วนะ กลับห้องกันเถอะ"พยาบาลสาวสวยท่าทางใจดีเดินไปโอบหลังเด็กชายผมสีเทาหยัดศกเล็กน้อยเหมือนคนไม่หวีผมอย่างเบามือเหมือนกับที่ทำให้กับคนไข้คนอื่นๆ แต่แขนเล็กสะบัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ดวงตาสีหยกมองทอดมาอย่างตื่นตระหนกและหวาดผวา ขาเล็กๆรีบวิ่งกลับไปที่ห้องและลงกลอนล๊อคแน่นหนา ความรู้สึกราวกับของเก่าไหลย้อนจนถึงคอนั้นไม่เคยเกิดมา แม้แต่กลิ่นคาวเลือดก็ไม่สะอิดสะเอียนเท่ากับความรู้สึกตอนที่่พยาบาลคนนั้นจับตัวเขา
มันดำมืด หนาวเหน็บ เสียดแทง แล้วก็น่าขนลุก
จริงอยู่ที่ว่าเขาไม่เคยแต่ตัวใครมาก่อนนอกจากคนที่ถือครองวิญญาณดวงเดียวกับเขา กับพวดคนชุดขาว เขาไม่เคยกลัวที่จะต้องแตะต้องคนอื่น แต่ควาามรู้สึกเมื่อกี้ทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า ความคิดแสนโสมมและอคติเรื่องร่างกายของเขาเหมือนกับยาพิษที่ถูกกรอกให้กลืนอย่างฝืนทน
เขาเอง...ก็ไม่ได้อยากเกิดมาแบบนี้เสียหน่อย
ใครล่ะเป็นผู้กำหนด ใครล่ะ ใครกัน?
หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มขาว ร่างเล็กขดตัวในผ้าห่มสีขาวในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นสารเคมีมากมาย ความเหนื่อยล้าและอ่อนแอทำให้เขาหลับลงไปอีกครั้ง ภาพที่เกิดในความฝันคือห้องสีขาวไม่มีกำแพง ไม่สิ...ต้องบอกว่าไม่รู้เลยว่ากำแพงอยู่ไหนต่างหาก เขาอยู่ในชุดสีดำ และคนที่อยู่ตรงข้ามเขาก็อยู่ในชุดแบบเดียวกัน
เซยะที่อยู่ในชุดสีดำสนิท ถือดอกไม้สีแดงและสีฟ้า ยืนอยู่หลังเส้นสีเหลืองบนพื้น
"เซยะ... นายอยู่ที่นี่เองเหรอ...."
"อย่าเข้ามา!!!"น้ำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยได้ยินดังลั่นและก้องไปทั่วจนเขาสั่นกลัว เจ้าของดวงตาสีเขียวค่อยๆถอยหลังไปทีละน้อย น้ำในตาที่เคยอดกลั้นได้ไหลอาบแก้มออกมา เสียใจ หวาดกลัว ตกใจ ดีใจ โกรธ ความรู้สึกมากมายหลากหลายทับถมจนแทบจะลืมหายใจ ดวงตาสีน้ำเงินอ่อนโยนมองมาที่เขา ดอกไม้สีฟ้าค่อยๆร่วงหล่นจากมือ กลีบดอกไม้ปลิวไหวไปทั่ว น้ำตาทำให้ภาพตรงหน้าพร้ามัวเสียเหลือเกิน
"เซยะ...."
"ออกไปซะ อย่าเข้ามาในจิตใจของฉัน อย่าเข้ามาอีก นายไม่เหมาะกับที่นี่"
"พูดอะไรน่ะ! เราเป็นวิญญาณดวงเดียวกันนะ แล้วทำไม...ทำไมเราถึงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำไมเซยะถึงทรยศความรู้สึกของฉัน มันเจ็บปวดมากเลยรู้ไหมตอนที่นายทำร้ายฉัน ทำร้ายความรู้สึกฉัน..."
"นายไม่จำเป็นต้องรู้ ให้ความรู้สึกนั้นอยู่กับนายตลอดไปเถอะ...."
"แต่,,,,"
"ออกไปได้แล้ว!!!!!"เสียงคำรามก้องและลมที่พัดแรงจนกลีบดอกไม้สีแดงพัดสะพัดไปทั่ว ร่างเล็กถูกพัดพาไปไกล ไปยังห้องสีดำสนิท ประตูสีขาวถูกปิดแน่น กลีบดอกไม้สีฟ้าบนพื้นสีดำทำให้น้ำตาของเขาไหลอย่างหยุดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
มันจะดีกว่าไหมถ้าเราจะเกลียดกันเมื่อต้องยู่ไกลกัน
มันจะดีกว่าไหมหากความรู้สึกที่โหยหากันและกันเป็นความแค้น
มันจะดีกว่าไหมหากว่าจิตใจของเราไม่เชื่อมกันอีกต่อไปแล้ว
"ดีสิ.... ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลย..."ดวงตาสองสีมองทอดยาวไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย และปลายทางของดวงตาคู่นี้มีคนคนหนึ่งจ้องมองร่างที่อ่อนแรงและดูไร้ซึ่งพลังใดๆ ขายาวๆก้าวผ่านความมืดมิดและขับไร้พวกกระจอกงอกง่อยที่จ้องจะทำร้ายร่างเล็กยามอ่อนแอถึงขีดสุด เด็กน้อยจ้องมองร่างสูงใหญ่ที่ปกปิดกายตนด้วยผ้าคลุมขาดๆ มือสีเหลืองซีดยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับคำพูดแนะนำตัวเยี่ยงสุภาพบุรุษ
"ยินดีที่ได้รู้จักเด็กน้อย เราถูกเรียกขานว่าแมมม่อน เจ้าล่ะชื่ออะไร?"
"เซยะ...."
"ผมชื่อ คุโรดะ เซยะ"
======================================
จบไปแล้วอีกตอนนึง เฮ้!!!!
อยากต่ออีกเยอะๆจังเลยน่า....